26 “แม้กระนั้น เขายังดื้อและกบฏต่อพระองค์ เหวี่ยงธรรมบัญญัติของพระองค์ไว้เบื้องหลัง และได้ฆ่าผู้เผยพระวจนะของพระองค์ ผู้ได้ตักเตือนเขาเพื่อให้เขากลับมาหาพระองค์ และเขาทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่หลวง
27 เพราะฉะนั้นพระองค์ทรงมอบเขาไว้ในมือศัตรูของเขา ผู้ทำให้เขาทนทุกข์และในเวลาแห่งการทนทุกข์ของเขานั้น เขาร้องทูลต่อพระองค์ และพระองค์ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ พระองค์ได้ประทานพวกผู้ช่วยแก่เขา ผู้ได้ช่วยเขาให้พ้นจากมือศัตรูของเขา ตามพระกรุณาเหลือล้นของพระองค์
28 แต่เมื่อเขาพักสงบแล้ว เขาก็ทำความชั่วต่อพระพักตร์พระองค์อีก พระองค์จึงทรงปล่อยเขาไว้ในมือศัตรูของเขา ศัตรูจึงได้ปกครองเขา ถึงกระนั้นเมื่อเขาหันมาร้องทูลต่อพระองค์ พระองค์ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์และพระองค์ทรงช่วยกู้เขาไว้หลายครั้งหลายหน ตามพระกรุณาของพระองค์
29 และพระองค์ทรงตักเตือนเขา เพื่อว่าจะทรงหันเขาให้กลับมาสู่ธรรมบัญญัติของพระองค์ แต่เขาก็ยังประพฤติอย่างเย่อหยิ่งอวดดี ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ แต่ได้ทำผิดต่อกฎหมายของพระองค์ (อันเป็นข้อปฏิบัติซึ่งมนุษย์จะดำรงชีพอยู่ได้) และได้หันบ่าดื้อและคอแข็งเข้าสู้และไม่ได้เชื่อฟัง
30 พระองค์ทรงอดทนกับเขาอยู่หลายปี และทรงเตือนเขาด้วยพระวิญญาณของพระองค์ทางผู้เผยพระวจนะของพระองค์ เขาก็ยังไม่เงี่ยหูฟัง เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงมอบเขาไว้ในมือของชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น
31 ถึงกระนั้นด้วยพระกรุณาเหลือล้นของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงกระทำให้เขาพินาศหรือละทิ้งเขาเสีย เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงมีพระคุณและพระกรุณา
32 “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงกลัว ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคง ฉะนั้นขอพระองค์อย่าทรงเห็นว่า ความทุกข์ยากลำบากทั้งสิ้นนั้นเป็นแต่สิ่งเล็กน้อย ซึ่งบังเกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลาย กับบรรดากษัตริย์ของข้าพระองค์กับบรรดาเจ้านาย บรรดาปุโรหิต บรรดาผู้เผยพระวจนะ บรรพบุรุษและชนชาติของพระองค์ทั้งสิ้น ตั้งแต่สมัยกษัตริย์อัสซีเรีย จนถึงวันนี้