ยา‌กอบ 4 TH1971

การ​เป็น​มิตร​กับ​โลก

1 อะไร​เป็น​สา‌เหตุ​ของ​สง‌คราม และ​อะไร​เป็น​สา‌เหตุ​ของ​การ​ทะเลาะ‍วิวาท​กัน​ใน​พวก​ท่าน มิ​ใช่​กิ‌เลส‍ตัณ‌หา​ของ​ท่าน​หรือ ที่​ทำ​ให้​ท่าน​ต่อ‍สู้​กัน

2 ท่าน​ทั้ง‍หลาย​อยาก​ได้ แต่​ไม่‍ได้ ท่าน​ก็​ฆ่า​กัน ท่าน​โลภ​แต่​ไม่​ได้ ท่าน​ก็​ทะเลาะ​และ​ทำ​สง‌คราม​กัน ท่าน​ไม่​มี​เพราะ​ท่าน​ไม่​ได้​ขอ

3 ท่าน​ขอ​และ​ไม่​ได้​รับ เพราะ​ท่าน​ขอ​ผิด หวัง​ได้​ไป​เพื่อ​สนอง​กิ‌เลส‍ตัณ‌หา​ของ​ท่าน

4 คน​ทุจริต​เอ๋ย ไม่​รู้​หรือ​ว่า การ​เป็น​มิตร​กับ​โลก​นั้น คือ​การ​เป็น​ศัตรู​กับ​พระ‍เจ้า เหตุ​ฉะนั้น ผู้​ใด​ใคร่​เป็น​มิตร​กับ​โลก ผู้​นั้น​ก็​ตั้ง‍ตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​พระ‍เจ้า

5 หรือ​ท่าน​คิด​ว่า​เป็น​สิ่ง​ไร้​สาระ​หรือ ที่​พระ‍คัม‌ภีร์​กล่าว​ว่า “พระ‍องค์​ทรง​เป็น​ห่วง​วิญ‌ญาณ​ที่​ได้​ทรง​ประ‌ทาน​ให้​อยู่​ใน​เรา​ทั้ง‍หลาย”

6 แต่​พระ‍องค์​ก็​ได้​ทรง​ประ‌ทาน​พระ‍คุณ​เพิ่ม​ขึ้น​อีก เหตุ​ฉะนั้น พระ‍คัม‌ภีร์​จึง​กล่าว​ว่า พระ‍เจ้า​ทรง​ต่อ‍สู้​ผู้​ที่​หยิ่ง‍จอง‌หอง แต่​ทรง​ประ‌ทาน​พระ‍คุณ​แก่​คน​ที่​ใจ‍ถ่อม

7 เหตุ​ฉะนั้น ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จง​น้อม‍ใจ​ยอม​ฟัง​พระ‍เจ้า จง​ต่อ‍สู้​กับ​มาร และ​มัน​จะ​หนี​ท่าน​ไป

8 ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จง​เข้า​ใกล้​พระ‍เจ้า และ​พระ‍องค์​จะ​เสด็จ​มา​ใกล้​ท่าน คน‍บาป​ทั้ง‍หลาย​เอ๋ย จง​ชำระ​มือ​ให้​สะอาด และ​คน​สอง​ใจ จง​ชำระ​ใจ​ของ​ตน​ให้​บริ‌สุทธิ์

9 จง​เป็น​ทุกข์​โศก‍เศร้า​และ​ร้อง‍ไห้ จง​ให้​การ​หัวเราะ​กลับ‍กลาย​เป็น​การ​โศก‍เศร้า และ​ความ​ปีติ​ยินดี​กลับ​กลาย​เป็น​ความ​เศร้า‍สลด

10 ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จง​ถ่อม​ใจ​ลง​ต่อ​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า และ​พระ‍องค์​จะ​ทรง​ยกชู​ท่าน​ขึ้น

อย่า​ตัด‍สิน​พี่‍น้อง​ของ​ตน

11 พี่‍น้อง​ทั้ง‍หลาย​อย่า​ใส่​ร้าย​ซึ่ง​กัน​และ​กัน ผู้‍ใด​ที่​พูด​ใส่​ร้าย​พี่‍น้อง​หรือ​ตัด‍สิน​พี่‍น้อง​ของ​ตน ผู้‍นั้น​ก็​กล่าว‍ร้าย​ต่อ​ธรรม​บัญ‌ญัติ และ​ตัด‍สิน​ธรรม​บัญ‌ญัติ แต่​ถ้า​ท่าน​ตัด‍สิน​ธรรม​บัญ‌ญัติ ท่าน​ก็​ไม่​ใช่​ผู้​ที่​ประ‌พฤติ​ตาม​ธรรม​บัญ‌ญัติ แต่​เป็น​ผู้​ตัด‍สิน

12 มี​ผู้​ทรง​ตั้ง​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​และ​ผู้​ทรง​พิพาก‌ษา​ตัด‍สิน​แต่​เพียง​องค์​เดียว คือ​พระ‍องค์​ผู้​ทรง​สา‌มารถ​ช่วย​เรา​ให้​รอด​ได้ และ​ทรง​สา‌มารถ​ทำ‌ลาย​เรา​ได้ แต่​ท่าน​เป็น​ผู้​ใด​เล่า ท่าน​จึง​ตัด‍สิน​เพื่อน​บ้าน​ของ​ท่าน

อย่า​อวด‍อ้าง​ถึง​พรุ่ง‍นี้

13 นี่‍แน่ะ​ท่าน​ที่​พูด​ว่า “วัน‍นี้​หรือ​พรุ่ง‍นี้​เรา​จะ​เข้า​ไป​ใน​เมือง​นี้​เมือง​นั้น และ​จะ​อยู่​ที่‍นั่น​ปี​หนึ่ง และ​จะ​ค้า‍ขาย​ได้​กำ‌ไร”

14 แต่​ว่า​ท่าน​ไม่​รู้‍เรื่อง​ของ​พรุ่ง‍นี้ ชีวิต​ของ​ท่าน​เป็น​เช่น‍ใด​เล่า ท่าน​ก็​เป็น​เช่น​หมอก​ที่​ปรา‌กฏ​อยู่​เพียง​ชั่ว‍ครู่​แล้ว​ก็​หาย​ไป

15 แทน​ที่​จะ​พูด​เช่น​นั้น​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ควร​จะ​พูด​ว่า “ถ้า​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​โปรด เรา​จะ​มี​ชีวิต​อยู่ และ​จะ​กระ‌ทำ​สิ่ง​นี้​หรือ​สิ่ง​นั้น”

16 ตาม​ความ​จริง​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​โอ้‍อวด​ด้วย​ความ​ทะนง​ตน การ​โอ้‍อวด​ทุก​อย่าง​เช่น​นี้​เป็น​ความ​ชั่ว

17 เหตุ​ฉะนั้น​ผู้​ใด​รู้​ว่า​อะไร​เป็น​ความ‍ดี​และ​ไม่​ได้​กระ‌ทำ คน​นั้น​จึง​มี​บาป

บท

1 2 3 4 5