12 นางทูลว่า “โปรดทรงอนุญาตให้หม่อมฉันทูลสักคำ”ดาวิดตรัสตอบว่า “พูดมาเถิด”
13 หญิงนั้นทูลว่า “ก็แล้วทำไมฝ่าพระบาททรงทำเช่นนี้ต่อประชากรของพระเจ้า? เมื่อฝ่าพระบาทตรัสเช่นนี้ เท่ากับตัดสินว่าฝ่าพระบาทเองเป็นฝ่ายผิด เพราะฝ่าพระบาทไม่ทรงยอมให้ราชโอรสที่ถูกเนรเทศไปนั้นกลับมา
14 คนเราล้วนต้องตายไปเหมือนน้ำหกรดแผ่นดิน จะรวบรวมคืนมาอีกไม่ได้ แต่พระเจ้าไม่ได้ทรงริบเอาชีวิตไป แต่ทรงคิดหาหนทางไม่ให้คนที่ถูกเนรเทศไปต้องถูกตัดขาดจากพระองค์
15 “ที่หม่อมฉันมาทูลฝ่าพระบาทก็เพราะมีคนมาข่มขู่ หม่อมฉันบอกตัวเองว่า ‘หม่อมฉันจะทูลกษัตริย์ บางทีพระองค์อาจจะทำตามที่ผู้รับใช้ทูลขอ
16 บางทีกษัตริย์อาจจะทรงเห็นชอบที่จะช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ให้พ้นจากมือของคนที่พยายามตัดหม่อมฉันกับลูกจากมรดกที่พระเจ้าประทานแก่พวกหม่อมฉัน’
17 “และบัดนี้ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทขอทูลว่า ‘พระดำรัสของฝ่าพระบาททำให้หม่อมฉันสบายใจ เพราะฝ่าพระบาทเป็นเสมือนทูตของพระเจ้าที่แยกแยะความดีจากความชั่ว ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของฝ่าพระบาทสถิตกับฝ่าพระบาทเถิด’ ”
18 แล้วกษัตริย์ตรัสกับหญิงนั้นว่า “อย่าปิดบัง เราจะถามอะไรเจ้าสักอย่างหนึ่ง”นางทูลว่า “โปรดตรัสเถิด”