10 พวกศัตรูได้ยื่นมือของเขายึดเอาบรรดาของประเสริฐของเธอด้วยเธอได้เห็นบรรดาประชาชาติบุกรุกเข้ามาในสถานนมัสการของเธอคือคนที่พระองค์ได้ทรงห้ามไม่ให้เข้ามาในชุมนุมชนของพระองค์
11 บรรดาพลเมืองของเธอได้ถอนใจใหญ่เมื่อเขาทั้งหลายเสาะหาอาหารและพวกเขาได้เอาทรัพย์สินของตัวออกแลกอาหารกินเพื่อจะได้ประทังชีวิต“ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงทอดพระเนตรเพราะข้าพระองค์เป็นที่เหยียดหยามเสียแล้ว”
12 “ดูก่อน ท่านทั้งหลายที่เดินผ่านไป ท่านไม่เกิดความรู้สึกอะไรบ้างหรือนี่แน่ะ จงดูซิว่ามีความทุกข์อันใดบ้างไหมที่เหมือนความทุกข์ที่มาสู่ข้าพเจ้าเป็นความทุกข์ซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำแก่ข้าพเจ้าในวันที่พระองค์ทรงกริ้วข้าพเจ้าอย่างเกรี้ยวกราดนั้น
13 “พระองค์ได้ทรงส่งเพลิงลงมาจากเบื้องบนให้เข้าไปในกระดูกทั้งหลายของข้าพเจ้าพระองค์ได้ทรงกางข่ายไว้ดักเท้าของข้าพเจ้าพระองค์ได้ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าต้องหันกลับพระองค์ได้ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าเปล่าเปลี่ยวและอ่อนระอาอยู่วันยังค่ำ
14 “ภาระแห่งการทรยศทั้งมวล ของข้าพเจ้าก็ถูกรวบเข้าเป็นแอกโดยพระหัตถ์ของพระองค์ทรงรวบมัดไว้แอกนั้นรัดรึงรอบคอข้าพเจ้าพระองค์ได้ทรงกระทำให้กำลังข้าพเจ้าถอยไปองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงมอบข้าพเจ้าไว้ ในมือของเขาทั้งหลายซึ่งข้าพเจ้าไม่สามารถต่อต้านได้
15 “องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทิ้งนักรบของข้าพเจ้าท่ามกลางข้าพเจ้าพระองค์ได้ทรงเกณฑ์ชุมนุมชนเข้ามาต่อสู้ข้าพเจ้าเพื่อจะขยี้ชายฉกรรจ์ของข้าพเจ้าให้แหลกไปพระเจ้าได้ทรงย่ำลูกสาวพรหมจารีแห่งยูดาห์ดั่งเหยียบผลองุ่นลงในบ่อย่ำองุ่น
16 “เพราะเหตุนี้เอง ที่ข้าพเจ้าร้องไห้นัยน์ตาของข้าพเจ้า เออ นัยน์ตาของข้าพเจ้ามีน้ำตาไหลลงมาเพราะผู้ปลอบโยนอยู่ไกลจากข้าพเจ้าคือผู้ที่ปลุกใจข้าพเจ้าและเหล่าลูกของข้าพเจ้าก็เปล่าเปลี่ยวเพราะพวกศัตรูได้ชัยชนะ”