8 และมีประชาชาติใหญ่ชาติใดเล่า ซึ่งมีกฎเกณฑ์และกฎหมายอันชอบธรรมอย่างกับ ธรรมบัญญัตินี้ซึ่งข้าพเจ้าได้ตั้งไว้ต่อหน้าท่านทั้งหลายในวันนี้
9 “แต่จงระวังตัว และรักษาจิตวิญญาณของตัวให้ดี เกรงว่าพวกท่านจะลืมสิ่งซึ่งนัยน์ตาได้เห็นนั้น และเกรงว่าสิ่งเหล่านั้นจะประลาตเสียจากใจของ ท่านตลอดวันคืนแห่งชีวิตของพวกท่าน จงกระทำให้ลูกของพวกท่านและหลานของพวกท่าน ทราบเรื่องเหล่านี้ว่า
10 ในวันนั้นที่พวกท่าน ได้ยืนอยู่ต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านที่โฮเรบ พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงรวมประชากรให้เข้ามาหน้าเรา เพื่อเราจะให้เขาได้ยินคำของเรา เพื่อเขาทั้งหลายจะได้ฝึกตนที่จะ ยำเกรงเราตลอดวันคืนที่เขามีชีวิตอยู่ในโลก และเพื่อว่าเขาจะได้สอนลูกหลานของเขาด้วย’
11 ท่านทั้งหลายได้เข้ามาใกล้ยืนอยู่ที่เชิงภูเขา และภูเขานั้นมีเพลิงลุกขึ้นถึงท้องฟ้ามีความมืด เมฆ และความมืดคลุ้มคลุมอยู่
12 แล้วพระเจ้าตรัสกับท่านทั้งหลายออกมาจาก ท่ามกลางเพลิง ท่านทั้งหลายได้ยินสำเนียงพระวจนะแต่ไม่เห็นรูปสัณฐาน มีแต่พระสุรเสียงเท่านั้น
13 และพระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์แก่ท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านทั้งหลายปฏิบัติตามคือ พระบัญญัติสิบประการ และพระองค์ทรงจารึกไว้บนศิลาสองแผ่น
14 ในครั้งนั้นพระเจ้าทรงบัญชาให้ข้าพเจ้า สั่งสอนกฎเกณฑ์และกฎหมายแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้กระทำตาม ในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามไปยึดครองนั้น