3 เจ้านายที่อยู่ในเมืองนี้ก็เหมือนสิงห์ที่คำรามผู้พิพากษาของเธอก็เหมือนหมาป่ายามเย็นซึ่งไม่ยอมทิ้งอะไรไว้จนรุ่งเช้า
4 ผู้เผยพระวจนะของเธอเป็นคนพาลเป็นคนทรยศบรรดาปุโรหิตของเธอก็กระทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นสาธารณ์เขาฝ่าฝืนต่อธรรมบัญญัติ
5 พระเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่ในเมืองนั้นชอบธรรมพระองค์มิได้ทรงกระทำผิดเลยทุกเช้าพระองค์สำแดงความยุติธรรมของพระองค์ทุกรุ่งอรุณมิได้ทรงขาดเลยแต่คนอยุติธรรมไม่รู้จักอาย
6 “เราได้กำจัดประชาชาติทั้งหลายเสียสันปราการของเขาพังทะลายเรากระทำให้ถนนในเมืองนั้นร้างเปล่าไม่มีผู้ใดเดินในนั้นหัวเมืองของเขาถูกทิ้งร้างไม่มีคน ไม่มีชาวเมืองเหลือ
7 เรากล่าวว่า ‘แท้จริง เมืองนั้นคงจะยำเกรงเราเธอจะยอมรับการตีสอนเธอคงจะไม่ทิ้งสายตาไปเสียจากบรรดาสิ่งต่างๆที่เรากำชับเธอ’แต่เขาทั้งหลายยิ่งกลับร้อนใจที่จะให้การกระทำของเขาเสื่อมทราม”
8 พระเจ้าจึงตรัสว่า “เพราะฉะนั้นจงคอยเราคอยวันที่เราลุกขึ้นเป็นพยานเพราะการตกลงใจของเราก็คือจะรวมประชาชาติให้ราชอาณาจักรชุมนุมกันเพื่อเทความกริ้วของเราบนเขาทั้งหลายคือความร้อนแรงแห่งความโกรธของเราเพราะว่าพิภพทั้งสิ้นถูกเผาผลาญในไฟแห่งความหวงแหนของเรา
9 เออ ในคราวนั้น เราจะเปลี่ยนริมฝีปากของชนชาติทั้งหลายให้เป็นริมฝีปากบริสุทธิ์เพื่อว่าทุกคนจะร้องทูลออกพระนามพระเจ้าและปรนนิบัติพระองค์เป็นใจเดียวกัน