6 และทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงครอบครองเหนือบรรดาราชอาณาจักรของประชาชาติไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงมีฤทธิ์เดชและพลานุภาพในพระหัตถ์ของพระองค์ จึงไม่มีใครอาจต่อต้านพระองค์ได้
7 ข้าแต่พระเจ้าของพวกข้าพระองค์ พระองค์ทรงขับไล่ชาวแผ่นดินนี้ออกไปพ้นหน้าอิสราเอลประชากรของพระองค์ และประทานแผ่นดินแก่เชื้อสายของอับราฮัมสหายของพระองค์เป็นนิตย์ ไม่ใช่หรือ?
8 และเขาทั้งหลายอาศัยอยู่ในนั้น ทั้งสร้างสถานนมัสการในที่นั้นถวายพระองค์ เพื่อพระนามของพระองค์แล้วทูลว่า
9 ‘ถ้ามีเหตุร้ายมาเหนือพวกข้าพระองค์ไม่ว่าจะเป็นดาบ การพิพากษา โรคระบาด หรือการกันดารอาหาร ข้าพระองค์ทั้งหลายจะยืนอยู่ต่อหน้าพระนิเวศนี้และเฉพาะพระพักตร์พระองค์ (เพราะพระนามของพระองค์อยู่ในพระนิเวศนี้) และร้องทูลต่อพระองค์ในความทุกข์ใจของพวกข้าพระองค์ แล้วพระองค์จะทรงฟังและจะทรงช่วยให้รอด’
10 นี่แน่ะ บัดนี้คนอัมโมน คนโมอับ และคนภูเขาเสอีร์ ซึ่งเป็นพวกที่พระองค์ไม่ทรงยอมให้คนอิสราเอลบุกรุก เมื่อออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ อิสราเอลก็หันออกไปโดยไม่ได้ทำลายพวกเขา
11 ดูสิ เขาทั้งหลายตอบแทนพวกข้าพระองค์ด้วยการมาขับไล่เราให้ออกจากแผ่นดินกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ที่พระองค์ประทานเป็นมรดกแก่พวกข้าพระองค์
12 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์จะไม่ทรงพิพากษาพวกเขาหรือ? เพราะว่าพวกข้าพระองค์ไม่มีฤทธิ์เดชที่จะต่อสู้คนมากมายนี้ ที่กำลังมาต่อสู้กับข้าพระองค์ทั้งหลาย พวกข้าพระองค์ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร แต่ดวงตาของข้าพระองค์ทั้งหลายเพ่งมองที่พระองค์”