มัท‌ธิว 15 TH1971

คำ‍สอน​ที่​ตก‍ทอด​มา‍จาก​บรรพ‌บุรุษ

1 ครั้ง​นั้น​พวก​ฟา‌ริสี​และ​พวก​ธรร‌มา‌จารย์​ออก‍จาก​กรุง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม มา​ทูล​ถาม​พระ‍เยซู​ว่า

2 “ทำไม​พวก​สา‌วก​ของ​ท่าน​จึง​ละเมิด​คำ‍สอน​ที่​ตก‍ทอด​มา​จาก​บรรพ‌บุรุษ ด้วย‍ว่า​เขา​มิ​ได้​ล้าง​มือ​เมื่อ​รับ‍ประ‌ทาน​อา‌หาร”

3 พระ‍องค์​จึง​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “เหตุ​ไฉน​พวก​ท่าน​จึง​ละเมิด​พระ‍บัญ‌ญัติ​ของ​พระ‍เจ้า ด้วย​เห็น​แก่​คำ​สอน​ที่​พวก​ท่าน​รับ​มา​จาก​บรรพ‌บุรุษ​เล่า

4 เพราะ‍ว่า​พระ‍เจ้า​ได้​ทรง​บัญ‌ญัติ​ไว้​ว่า ‘จง​ให้​เกียรติ​บิดา​มารดา​ของ​เจ้า’ และ ‘ผู้‍ใด​ประ‌ณาม​บิดา​มารดา​จะ​ต้อง​มี​โทษ​ถึง​ตาย’

5 แต่​พวก​ท่าน​กลับ​สอน​ว่า ‘ผู้‍ใด​จะ​กล่าว​แก่​บิดา​มารดา​ว่า “สิ่ง‍ใด​ของ​ข้าพ‌เจ้า​ซึ่ง​อาจ​เป็น​ประ‌โยชน์​แก่​ท่าน สิ่ง‍นั้น​เป็น​ของ‍ถวาย​แด่​พระ‍เจ้า​แล้ว” ผู้‍นั้น​จึง​ไม่​ต้อง​ให้​เกียรติ​บิดา​มารดา​ของ​ตน’

6 อย่าง​นั้น​แหละ ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ทำ​ให้​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​ของ​พระ‍เจ้า​เป็น​หมัน​ไป เพราะ​เห็น‍แก่​คำ‍สอน​ของ​พวก​ท่าน

7 โอ คน​หน้า‍ซื่อ‍ใจ‍คด อิส‌ยาห์​ได้​พยา‌กรณ์​ถึง​พวก​ท่าน​ถูก​แล้ว​ว่า

8 ประ‌ชา‍ชน​นี้​ให้​เกียรติ​เรา​แต่​ปาก ใจ​ของ​เขา​ห่าง​ไกล​จาก​เรา

9 เขา​นมัส‌การ​เรา​โดย​หา​ประ‌โยชน์​มิ​ได้ ด้วย​เอา​บท​บัญ‌ญัติ​ของ​มนุษย์​มา​ตู่​ว่า เป็น​พระ‍ดำ‌รัส​สอน​ของ​พระ‍เจ้า”

สิ่ง​ที่​เป็น‍มล‌ทิน

10 แล้ว​พระ‍องค์​ทรง​เรียก​ประ‌ชา‍ชน​และ​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “จง​ฟัง​และ​เข้า‍ใจ​เถิด

11 มิ​ใช่​สิ่ง​ซึ่ง​เข้า​ไป​ใน​ปาก​จะ​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​มล‌ทิน แต่​สิ่ง​ซึ่ง​ออก‍มา​จาก​ปาก​นั้น​แหละ​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​มล‌ทิน”

12 ขณะ​นั้น​พวก​สา‌วก​มา​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “พระ‍องค์​ทรง​ทราบ​แล้ว​หรือ​ว่า เมื่อ​พวก​ฟา‌ริสี​ได้​ยิน​คำ​ตรัส​นั้น​เขา​แค้น‍เคือง​นัก”

13 พระ‍องค์​จึง​ตรัส​ตอบ​ว่า “ต้น‍ไม้​ใดๆ​ทุก​ต้น ซึ่ง​พระ‍บิดา​ของ​เรา​ผู้​ทรง​สถิต​ใน​สวรรค์ มิ‍ได้​ทรง​ปลูก​ไว้​จะ​ต้อง​ถอน​เสีย

14 ช่าง‍เขา​เถิด เขา​เป็น​คน​นำ‍ทาง​ตา‍บอด ถ้า​คน​ตา‍บอด​นำ‍ทาง​คน​ตา​บอด ทั้ง‍สอง​จะ​ตก​ลง​ไป​ใน​บ่อ”

15 ฝ่าย​เป‌โตร​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ขอ​พระ‍องค์​ทรง​โปรด​อธิ‌บาย​คำ​เปรียบ​เทียบ​นั้น ให้​พวก​ข้า​พระ‍องค์​ทราบ”

16 ฝ่าย​พระ‍เยซู​ตรัส‍ตอบ​ว่า “ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ยัง​ไม่​เข้า‍ใจ​ด้วย​หรือ

17 ท่าน​ยัง​ไม่​เห็น​หรือ​ว่า สิ่ง​ใดๆ​ซึ่ง​เข้า​ไป​ใน​ปาก​ก็​ลง​ไป​ใน‍ท้อง แล้ว​ก็​ถ่าย​ออก​ลง​ส้วม​ไป

18 แต่​สิ่ง​ที่​ออก​จาก​ปาก​ก็​ออก​มา​จาก​ใจ สิ่ง​นั้น​แหละ​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​มล‌ทิน

19 ความ​คิด​ชั่ว‍ร้าย การ​ฆ่า​คน การ​ผิด​ผัว​ผิด​เมีย การ​ล่วง​ประ‌เวณี การ​ลัก‍ขโมย การ​เป็น​พยาน​เท็จ การ​ใส่‍ร้าย ก็​ออก​มา​จาก​ใจ

20 สิ่ง​เหล่า‍นี้​แหละ​ที่​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​มล‌ทิน แต่​ซึ่ง​จะ​รับ‍ประ‌ทาน​อา‌หาร​โดย​ไม่​ล้าง​มือ​ก่อน ไม่​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​มล‌ทิน”

ความ​เชื่อ​ของ​หญิง​ชาว​คา‌นา‌อัน

21 แล้ว​พระ‍เยซู​เสด็จ​จาก​ที่‍นั่น เข้า​ไป​ใน​เขต​เมือง​ไทระ​และ​เมือง​ไซ‌ดอน

22 มี​หญิง​ชาว​คา‌นา‌อัน​คน​หนึ่ง​มา​จาก​เขต‍แดน​นั้น​ร้อง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “พระ‍องค์​ผู้​ทรง​เป็น​บุตร‍ดา‌วิด​เจ้า‍ข้า ขอ​ทรง​โปรด​เมต‌ตา​ข้า‍พระ‍องค์​เถิด ลูก‍สาว​ของ​ข้า‍พระ‍องค์​มี​ผี​สิง​อยู่ เป็น​ทุกข์​ลำ‌บาก​ยิ่ง​นัก”

23 ฝ่าย​พระ‍องค์​ไม่​ทรง​ตอบ​เขา​สัก​คำ​เดียว และ​พวก​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์​มา​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ไล่​เขา​ไป​เสีย​เถิด เพราะ​เขา​ร้อง​ตาม​เรา​มา”

24 พระ‍องค์​ตรัส‍ตอบ​ว่า “เรา​มิ‍ได้​รับ‍ใช้​มา​หา​ผู้‍ใด เว้น​แต่​แกะ​หลง​ของ​วงศ์‍วาน​อิส‌รา‌เอล”

25 ฝ่าย​หญิง​นั้น​ก็​มา​กราบ‍ทูล​พระ‍องค์​ว่า “พระ‍องค์​เจ้า​ข้า ขอ​ทรง​โปรด​ช่วย​ข้า‍พระ‍องค์​เถิด”

26 พระ‍องค์​จึง​ตรัส‍ตอบ​ว่า “ซึ่ง​จะ​เอา​อา‌หาร​ของ​ลูก​โยน​ให้​แก่​สุนัข​ก็​ไม่​ควร”

27 ผู้หญิง​นั้น​ทูล​ว่า “จริง​เจ้า‍ข้า แต่​สุนัข​นั้น​ย่อม​กิน​เดน​ที่​ตก​จาก​โต๊ะ​นาย​ของ​มัน”

28 แล้ว​พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “หญิง​เอ๋ย ความ‍เชื่อ​ของ​เจ้า​ก็​มาก ให้​เป็น​ไป​ตาม​ความ​ปรารถ‌นา​ของ​เจ้า​เถิด” และ​ลูก‍สาว​ของ​เขา​ก็​หาย​เป็น​ปกติ​ตั้ง‍แต่​ขณะ‍นั้น

พระ‍เยซู​ทรง​รัก‌ษา​คน​เป็น​อัน​มาก

29 พระ‍เยซู​จึง​เสด็จ​จาก​ที่​นั่น​มา​ยัง​ทะเล‍สาบ​กา‌ลิลี แล้ว​เสด็จ​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​ทรง​ประ‌ทับ​ที่​นั่น

30 และ​ประ‌ชา‍ชน​เป็น​อัน​มาก​มา​เฝ้า​พระ‍องค์ พา​คน‍ง่อย คน​แขน​ขา​พิการ คน​ตา‍บอด คน​ใบ้ และ​คน​เจ็บ​อื่นๆ​หลาย​คน มา​วาง​แทบ​พระ‍บาท​ของ​พระ‍เยซู แล้ว​พระ‍องค์​ทรง​รัก‌ษา​เขา​ให้​หาย

31 คน​เหล่า​นั้น​จึง​อัศ‌จรรย์​ใจ​นัก เมื่อ​เห็น​คน​ใบ้​พูด​ได้ คน​แขน​ขา​พิการ​หาย​เป็น​ปกติ คน​ง่อย​เดิน​ได้ คน​ตา‍บอด​กลับ​เห็น แล้ว​เขา​ก็​สรร‌เสริญ​พระ‍เจ้า​ของ​ชน‍ชาติ​อิส‌รา‌เอล

ทรง​เลี้ยง​คน​สี่‍พัน

32 ฝ่าย​พระ‍เยซู​ทรง​เรียก​พวก​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์​มา ตรัส​ว่า “เรา​สง‌สาร​คน​เหล่า‍นี้ เพราะ​เขา​ค้าง​อยู่​กับ​เรา​ได้​สาม​วัน​แล้ว และ​ไม่​มี​อา‌หาร​จะ​กิน เรา​ไม่​อยาก​ให้​เขา​ไป​เมื่อ​ยัง​อด​อา‌หาร​อยู่ กลัว​ว่า​เขา​จะ​หิว‍โหย​สิ้น​แรง​ลง​ตาม​ทาง”

33 พวก​สา‌วก​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ใน​ถิ่น​ทุร‌กัน‌ดาร​นี้ เรา​จะ​หา​อา‌หาร​ที่​ไหน​พอ​เลี้ยง​คน​มาก​เท่า​นี้​ให้​อิ่ม​ได้”

34 พระ‍เยซู​จึง​ตรัส​ถาม​เขา​ว่า “ท่าน​มี​ขนม‍ปัง​กี่​ก้อน” เขา​ทูล​ว่า “มี​เจ็ด​ก้อน​กับ​ปลา​เล็กๆ​สอง​สาม​ตัว”

35 พระ‍องค์​จึง​สั่ง​ประ‌ชา‍ชน​ให้​นั่ง​ลง​ที่​พื้น‍ดิน

36 แล้ว​ทรง​รับ​ขนม‍ปัง​เจ็ด​ก้อน และ​ปลา​เหล่า​นั้น​มา​โม‌ทนา​พระ‍คุณ​แล้ว จึง​ทรง​หัก​ส่ง​ให้​เหล่า​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์ เหล่า​สา‌วก​ก็​แจก​ให้​ประ‌ชา‍ชน

37 และ​คน​ทั้ง‍ปวง​ได้​รับ‍ประ‌ทาน​อิ่ม​ทุก​คน อา‌หาร​ที่​เหลือ​นั้น เขา​เก็บ​ได้​เจ็ด​ตะกร้า

38 ผู้​ที่​ได้​รับ‍ประ‌ทาน​อา‌หาร​นั้น มี​ผู้‍ชาย​สี่‍พัน​คน​มิ​ได้​นับ​ผู้หญิง​และ​เด็ก

39 พระ‍องค์​ตรัส​สั่ง​ให้​ประ‌ชา‍ชน​ไป​แล้ว ก็​เสด็จ​ลง​เรือ​มา​ถึง​เขต​เมือง​มา‌กา‌ดาน

บท

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28