1 เขาเรียนโยอาบว่า “ดูสิ พระราชาทรงกันแสงและไว้ทุกข์เพื่ออับซาโลม”
2 เพราะฉะนั้น ชัยชนะในวันนั้นก็กลายเป็นการไว้ทุกข์ของทหารทั้งปวง เพราะในวันนั้นพวกทหารได้ยินว่า “พระราชาทรงโทมนัสเพราะโอรสของพระองค์”
3 ในวันนั้นพวกทหารแอบเข้ามาในเมืองอย่างกับพวกทหารที่แอบมา เมื่อละอายใจหนีศึกกลับมา
4 พระราชาคลุมพระพักตร์ ทรงกันแสงเสียงดังว่า “โอ อับซาโลมบุตรของเราเอ๋ย โอ อับซาโลมบุตรของเรา บุตรของเรา”
5 โยอาบก็เข้ามาในพระราชวังทูลว่า “วันนี้ฝ่าพระบาททรงทำให้ข้าราชการทหารทั้งสิ้นของฝ่าพระบาทรับความละอาย คือ พวกเขาซึ่งวันนี้ได้ช่วยชีวิตของฝ่าพระบาท ทั้งชีวิตของบรรดาราชโอรสและราชธิดาและชีวิตของบรรดามเหสีและชีวิตของบรรดาสนมของฝ่าพระบาท
6 เพราะว่าฝ่าพระบาททรงรักผู้ที่เกลียดชังฝ่าพระบาท และทรงเกลียดชังผู้ที่รักฝ่าพระบาท เพราะในวันนี้ ฝ่าพระบาททรงทำให้ประจักษ์แล้วว่า บรรดานายทหารและข้าราชการไม่มีค่าสำหรับฝ่าพระบาท ในวันนี้ข้าพระบาททราบว่า ถ้าอับซาโลมยังมีชีวิตอยู่ และในวันนี้ข้าพระบาททั้งหลายตายสิ้น ฝ่าพระบาทก็จะพอพระทัย
7 ขอฝ่าพระบาททรงลุกขึ้น ณ บัดนี้ ขอเสด็จออกไปตรัสให้กำลังใจบรรดาข้าราชการ เพราะข้าพระบาทปฏิญาณในพระนามพระยาห์เวห์ว่า ถ้าฝ่าพระบาทไม่เสด็จ จะไม่มีชายสักคนหนึ่งค้างอยู่กับฝ่าพระบาทในคืนนี้ เรื่องนี้จะร้ายแรงยิ่งกว่าเหตุร้ายอื่นๆ ทั้งสิ้น ซึ่งบังเกิดแก่ฝ่าพระบาทตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จนบัดนี้”
8 พระราชาก็ทรงลุกขึ้น ประทับที่ประตู พวกเขาไปบอกพวกทหารว่า “ดูสิ พระราชาประทับอยู่ที่ประตู” ประชาชนทั้งหลายก็มาเฝ้าพระราชาฝ่ายอิสราเอลนั้นต่างคนต่างก็หนีไปยังที่อาศัยของตนหมดแล้ว
9 ประชาชนทั้งสิ้นก็หมางใจกันไปทั่วอิสราเอลทุกเผ่า กล่าวว่า “พระราชาเคยทรงช่วยกู้เราให้พ้นจากมือบรรดาศัตรูของเรา และทรงช่วยเราให้พ้นจากมือพวกฟีลิสเตีย บัดนี้พระองค์ทรงหนีอับซาโลมออกจากแผ่นดิน
10 แต่อับซาโลมผู้ที่เราเจิมตั้งไว้เหนือเรานั้นก็สวรรคตเสียแล้วในสงคราม บัดนี้ทำไมพวกเจ้าไม่พูดอะไรบ้างเลยในเรื่องที่จะทูลเชิญพระราชาให้เสด็จกลับ?”
11 กษัตริย์ดาวิดทรงส่งคนไปหาศาโดกและอาบียาธาร์ปุโรหิตทั้งสอง รับสั่งว่า “จงพูดกับพวกผู้ใหญ่ของคนยูดาห์ว่า ‘ทำไมพวกท่านจึงเป็นคนสุดท้ายที่จะทูลเชิญพระราชาเสด็จกลับพระราชวังของพระองค์ ในเมื่อมีถ้อยคำมาจากอิสราเอลทั้งปวงถึงพระราชา ให้เสด็จกลับพระราชวังของพระองค์?
12 ท่านเป็นญาติของเรา เป็นกระดูกและเนื้อของเรา ทำไมท่านจึงจะเป็นคนสุดท้ายที่จะเชิญพระราชากลับ?’
13 และจงบอกอามาสาว่า ‘ท่านไม่ได้เป็นกระดูกและเนื้อของเราหรือ? ถ้าท่านมิได้เป็นผู้บังคับบัญชากองทัพต่อหน้าเราแทนโยอาบสืบต่อไป ขอพระเจ้าทรงลงโทษเรา และทรงเพิ่มโทษนั้น’ ”
14 กษัตริย์ดาวิดชักจูงจิตใจของคนยูดาห์ทั้งปวงดังกับจิตใจของชายคนเดียว พวกเขาจึงส่งคนไปทูลพระราชาว่า “ขอฝ่าพระบาทเสด็จกลับพร้อมกับข้าราชการทั้งหมด”
15 พระราชาก็เสด็จกลับและมายังแม่น้ำจอร์แดน และยูดาห์ก็พากันมาที่กิลกาลเพื่อรับเสด็จพระราชาและนำพระราชาเสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดน
16 ชิเมอีบุตรเก-รา คนเบนยามินผู้มาจากบาฮูริม รีบลงมาพร้อมกับคนยูดาห์เพื่อจะรับเสด็จกษัตริย์ดาวิด
17 มีคนจากเผ่าเบนยามินพร้อมกับท่าน 1,000 คน และศิบามหาดเล็กในราชวงศ์ของซาอูล พร้อมกับบุตร 15 คน กับคนใช้อีก 20 คน ก็รีบมายังแม่น้ำจอร์แดนเฉพาะพระพักตร์พระราชา
18 ขณะที่ข้ามท่าข้ามไปรับราชวงศ์ของพระราชา และคอยปฏิบัติให้ชอบพระทัย ชิเมอีบุตรเก-รา โน้มตัวลงเฉพาะพระพักตร์พระราชาขณะที่พระองค์จะเสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดน
19 ทูลพระราชาว่า “ขอเจ้านายของข้าพระบาทอย่าทรงถือโทษการล่วงละเมิดของข้าพระบาท และขออย่าทรงจดจำความผิดที่ข้าพระบาททำในวันที่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาทเสด็จออกจากเยรูซาเล็ม ขอพระราชาอย่าทรงจดจำไว้ในพระทัย
20 ด้วยผู้รับใช้ของฝ่าพระบาททราบแล้วว่าข้าพระบาทเองได้ทำบาป เพราะฉะนั้น ดูเถิด ในวันนี้ข้าพระบาทได้มาเป็นคนแรกในพงศ์พันธุ์โยเซฟทั้งหมด ที่ลงมารับเสด็จพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท”
21 อาบีชัยบุตรนางเศรุยาห์จึงตอบว่า “ที่ชิเมอีทำเช่นนี้ไม่ควรจะถึงที่ตายดอกหรือ? เพราะเขาได้แช่งด่าผู้ที่รับการเจิมของพระยาห์เวห์”
22 แต่ดาวิดตรัสว่า “บุตรทั้งสองของนางเศรุยาห์เอ๋ย เรามีธุระอะไรกับท่าน ซึ่งในวันนี้ท่านจะมาเป็นปฏิปักษ์กับเรา ในวันนี้น่ะควรที่จะให้ใครในอิสราเอลมีโทษถึงตาย ในวันนี้เราไม่ทราบหรือว่า เราเองเป็นกษัตริย์ครอบครองอิสราเอล?”
23 และพระราชาตรัสกับชิเมอีว่า “เจ้าจะไม่ตาย” แล้วพระราชาก็ทรงปฏิญาณให้เขา
24 เมฟีโบเชท พระราชนัดดาของซาอูลก็ลงมารับเสด็จ โดยไม่ได้แต่งเท้าหรือขลิบเครา หรือซักเสื้อผ้าของตนตั้งแต่วันที่พระราชาเสด็จจากไปจนวันที่เสด็จกลับมาโดยสวัสดิภาพ
25 เมื่อเมฟีโบเชทมายังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อจะรับเสด็จ พระราชาตรัสถามว่า “เมฟีโบเชท ทำไมท่านไม่ได้ไปกับเรา?”
26 ท่านทูลตอบว่า “ข้าแต่พระราชา เจ้านายของข้าพระบาท มหาดเล็กของข้าพระบาทหลอกลวงข้าพระบาท เพราะผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทบอกเขาว่า ‘ข้าจะผูกอานลาตัวหนึ่งเพื่อข้าจะได้ขี่ไปตามเสด็จพระราชา’ เพราะว่าผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเป็นง่อย
27 เขากลับไปทูลพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ใส่ร้ายผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท แต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาทเหมือนทูตของพระเจ้า เมื่อฝ่าพระบาททรงเห็นสมควรจะทำแก่ข้าพระบาทประการใด ก็ขอทรงทำเถิด พ่ะย่ะค่ะ
28 เพราะว่าเชื้อวงศ์ราชบิดาของข้าพระบาททั้งสิ้นนั้นเป็นแต่คนสมควรตาย เฉพาะพระพักตร์พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท แต่ฝ่าพระบาทก็ทรงแต่งตั้งผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทไว้ในหมู่ผู้ที่รับประทานร่วมโต๊ะเสวยของฝ่าพระบาท ข้าพระบาทจะมีความชอบธรรมประการใดเล่าที่จะร้องทูลต่อพระราชาอีก?”
29 พระราชาจึงตรัสกับท่านว่า “ท่านจะพูดเรื่องราวของท่านต่อไปทำไม เราตัดสินใจว่า ท่านกับศิบาจงแบ่งที่ดินกัน”
30 เมฟีโบเชททูลพระราชาว่า “เมื่อพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทได้เสด็จกลับสู่พระราชวังโดยสวัสดิภาพเช่นนี้แล้ว ก็ให้ศิบารับไปหมดเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
31 ฝ่ายบารซิลลัยชาวกิเลอาดได้ลงมาจากโรเก-ลิม และไปกับพระราชาถึงแม่น้ำจอร์แดน เพื่อส่งพระองค์ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป
32 บารซิลลัยเป็นคนชรามากแล้ว อายุ 80 ปี ท่านได้นำเสบียงอาหารมาถวายพระราชาขณะพระองค์ประทับที่มาหะนาอิมเพราะท่านเป็นคนมั่งมีมาก
33 พระราชาจึงตรัสกับบารซิลลัยว่า “จงข้ามมาอยู่กับเรา เราจะเลี้ยงดูท่านให้อยู่กับเราที่เยรูซาเล็ม”
34 แต่บารซิลลัยทูลพระราชาว่า “ข้าพระบาทจะอยู่ต่อไปได้อีกกี่ปี? ที่ข้าพระบาทจะขึ้นไปอยู่กับพระราชาที่เยรูซาเล็ม
35 วันนี้ข้าพระบาทมีอายุ 80 ปีแล้ว ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะสังเกตว่าอะไรเป็นที่พอใจและไม่พอใจได้หรือ? ข้าพระบาทจะลิ้มรสอร่อยของสิ่งที่กินและดื่มได้หรือ? ข้าพระบาทจะฟังเสียงนักร้องชายหญิงร้องเพลงได้อีกหรือ? ทำไมจะให้ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเป็นภาระเพิ่มแก่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาทอีกเล่า?
36 ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะตามเสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปอีกหน่อยกับพระราชา ไฉนพระราชาจะทรงตอบแทนด้วยรางวัลเช่นนี้เล่า?
37 ขอให้ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทกลับไปเพื่อจะตายในเมืองของข้าพระบาท ใกล้ที่ฝังศพบิดามารดาของข้าพระบาท แต่นี่คือคิมฮามผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท โปรดให้เขาตามเสด็จพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทไป ขอทรงทำต่อเขาแล้วแต่ทรงเห็นควร”
38 พระราชาตรัสตอบว่า “คิมฮามจะข้ามไปกับเรา เราจะทำคุณแก่เขาตามที่ท่านเห็นควร ทุกสิ่งที่ท่านต้องการให้เราทำเพื่อท่าน เรายินดีทำให้ท่าน”
39 แล้วประชาชนทั้งสิ้นก็ข้ามแม่น้ำจอร์แดน พระราชาเสด็จข้ามไป พระราชาทรงจูบบารซิลลัย และอวยพรท่าน ท่านก็กลับไปยังที่อยู่ของท่าน
40 พระราชาเสด็จข้ามไปยังกิลกาล และคิมฮามก็ข้ามตามเสด็จไปด้วย ประชาชนยูดาห์ทั้งหมดกับประชาชนอิสราเอลครึ่งหนึ่งได้นำพระราชาข้ามมา
41 นี่แน่ะ คนอิสราเอลทั้งหมดมาเฝ้าพระราชา ทูลพระราชาว่า “ไฉนคนยูดาห์พี่น้องของเราจึงลักพาฝ่าพระบาทไปเสีย พาพระราชาและราชวงศ์ของพระองค์ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปพร้อมกับคนของดาวิดทั้งหมด?”
42 คนยูดาห์ทั้งปวงจึงตอบคนอิสราเอลว่า “เพราะพระราชาเป็นญาติสนิทกับเรา ท่านทั้งหลายจะโกรธด้วยเรื่องนี้ทำไมเล่า เราได้อยู่กินผลาญพระราชทรัพย์ของพระราชาหรือ? พระองค์ให้รางวัลอะไรแก่เราหรือ?”
43 คนอิสราเอลก็ตอบคนยูดาห์ว่า “เรามีส่วนในพระราชาสิบส่วนและในดาวิดเราก็มีมากกว่าท่าน ทำไมท่านจึงดูถูกเราเช่นนี้เล่า? เราไม่ได้เป็นพวกแรกที่พูดเรื่องการนำพระราชากลับหรือ?” แต่ถ้อยคำของคนยูดาห์ก็รุนแรงกว่าถ้อยคำของคนอิสราเอล