11 เมื่อเขาทูลดาวิดให้ทรงทราบว่านางริสปาห์บุตรีของอัยยาห์นางสนมของซาอูลทำอย่างไร
12 ดาวิดก็เสด็จไปนำอัฐิของซาอูลและของโยนาธานโอรสมาจากเมืองยาเบชกิเลอาด จากผู้ที่ลักลอบเอาไปจากลานเมืองเบธชาน ที่พวกฟีลิสเตียได้แขวนทั้งสองพระองค์ไว้ ในวันที่พวกฟีลิสเตียประหารซาอูลบนเขากิลโบอา
13 พระองค์ทรงนำอัฐิของซาอูลและของโยนาธานโอรสของพระองค์ขึ้นมาจากที่นั่น และรวบรวมกระดูกของบรรดาผู้ที่ถูกแขวนคอตาย
14 และพวกเขาก็ฝังอัฐิของซาอูลและของโยนาธานโอรสของพระองค์ไว้ในแผ่นดินของเบนยามินในเมืองเศ-ลาในอุโมงค์ของคีชบิดาของพระองค์ พวกเขาก็ทำตามทุกอย่างที่พระราชาทรงบัญชาไว้ หลังจากนั้นพระเจ้าก็ทรงสดับคำอธิษฐานเพื่อแผ่นดินนั้น
15 พวกฟีลิสเตียมาทำสงครามกับคนอิสราเอลอีก ดาวิดก็เสด็จลงไปพร้อมกับบรรดาข้าราชการทหารของพระองค์ และทรงสู้รบกับคนฟีลิสเตีย และดาวิดก็ทรงอ่อนเพลีย
16 อิชบีเบโนบผู้เป็นคนหนึ่งในพงศ์พันธุ์ของคนยักษ์ถือหอกทองสัมฤทธิ์หนักสามกิโลกรัมครึ่ง มีดาบใหม่คาดเอว คิดจะฆ่าดาวิดเสีย
17 แต่อาบีชัยบุตรนางเศรุยาห์เข้ามาช่วยพระองค์ไว้ และสู้รบกับคนฟีลิสเตียคนนั้น ฆ่าเขาเสีย แล้วเหล่าทหารของดาวิดก็ทูลปฏิญาณต่อพระองค์ว่า “ขอฝ่าพระบาทอย่าเสด็จไปทำศึกพร้อมกับพวกข้าพระบาทอีกต่อไปเลย เพื่อฝ่าพระบาทจะไม่ดับประทีปของอิสราเอล”