ลูกา 20 THSV11

ปัญหา​เรื่อง​สิทธิ‍อำนาจ​ของ​พระ‍เยซู

1 วัน‍หนึ่ง ขณะ​พระ‍องค์​กำลัง​สั่ง‍สอน​ประ‌ชา‍ชน​ใน​บริ‌เวณ​พระ‍วิหาร​และ​กำลัง​ประ‌กาศ​ข่าว‍ดี พวก​หัว‍หน้า​ปุ‌โร‌หิต พวก​ธรร‌มา‌จารย์ และ​พวก​ผู้‍ใหญ่​มา​พบ​พระ‍องค์

2 และ​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “จง​บอก​เรา​เถิด ท่าน​มี​สิทธิ‍อำนาจ​อะไร​ถึง​ได้​ทำ​แบบ‍นี้? ใคร​ให้​สิทธิ​แก่​ท่าน?”

3 พระ‍องค์​ตรัส​ตอบ​พวก‍เขา​ว่า “เรา​จะ​ถาม​พวก‍ท่าน​สัก​ข้อ‍หนึ่ง​ด้วย​เหมือน‍กัน จง​ตอบ​เรา​เถิด

4 คือ​บัพ‌ติศ‌มา​ของ​ยอห์น​นั้น​มา​จาก​สวรรค์​หรือ​มา​จาก​มนุษย์?”

5 พวก‍เขา​จึง​ปรึก‌ษา​กัน​ว่า “ถ้า​เรา​บอก​ว่า ‘มา​จาก​สวรรค์’ เขา​จะ​ถาม​ว่า ‘ทำไม​ถึง​ไม่​เชื่อ​ยอห์น?’

6 แต่​ถ้า​บอก​ว่า ‘มา​จาก​มนุษย์’ ประ‌ชา‍ชน​ก็​จะ​เอา​หิน​ขว้าง​เรา เพราะ​ถือ​กัน​ว่า​ยอห์น​เป็น​ผู้‍เผย‍พระ‍วจนะ”

7 พวก‍เขา​จึง​ทูล​ตอบ​ว่า “เรา​ไม่​ทราบ​ว่า​มา​จาก​ไหน”

8 พระ‍เยซู​จึง​ตรัส​กับ​เขา‍ทั้ง‍หลาย​ว่า “เรา​ก็​จะ​ไม่​บอก​ท่าน​เหมือน‍กัน​ว่า เรา​ทำ​สิ่ง‍เหล่า‍นี้​ด้วย​สิทธิ‍อำนาจ​อะไร”

อุปมา​เรื่อง​สวน‍องุ่น​และ​คน​เช่า

9 พระ‍องค์​ตรัส​อุปมา​ให้​ประ‌ชา‍ชน​ฟัง​ต่อ‍ไป​ว่า “มี​ชาย​คน​หนึ่ง​ทำ​สวน‍องุ่นและ​ให้​ชาว‍สวน​บาง‍คน​เช่า แล้ว​ก็​ไป​อยู่​ต่าง‍ประ‌เทศ​เป็น​เวลา​นาน

10 เมื่อ‍ถึง‍เวลา​แล้ว​จึง​ใช้​ทาส​คน​หนึ่ง​ไป​หา​คน​เช่า​สวน​เหล่า‍นั้น เพื่อ​พวก‍เขา​จะ​ได้​แบ่ง​องุ่น​ที่​เป็น​ผล​ผลิต​นั้น​แก่​เจ้า‍ของ แต่​ชาว​สวน​เหล่า‍นั้น​กลับ​เฆี่ยน‍ตี​เขา​และ​ไล่​เขา​กลับ​ไป​มือ‍เปล่า

11 เจ้า‍ของ​สวน​จึง​ใช้​ทาส​อีก‍คน‍หนึ่ง​ไป แต่​พวก​นั้น​เฆี่ยน‍ตี​และ​ทำ​การ​อัปยศ​ต่างๆ ต่อ​ทาส​คน​นั้น​ด้วย และ​ไล่​ให้​กลับ​ไป​มือ‍เปล่า

12 เจ้า‍ของ​สวน​จึง​ใช้​คน​ที่​สาม​ไป แต่​คน​เช่า​สวน​เหล่า‍นั้น​ก็​ทำ​ให้​เขา​บาด‍เจ็บ แล้ว​ขับ‍ไล่​เขา​ออก​ไป

13 เจ้า‍ของ​สวน‍องุ่น​จึง​กล่าว​ว่า ‘ข้า​จะ​ทำ​อย่าง‍ไร​ดี? ข้า​จะ​ส่ง​ลูก​รัก​ของ​ข้า​ไป เขา​คง‍จะ​เคารพ​ลูก​คน​นี้’

14 แต่​เมื่อ​พวก​ชาว​สวน​เห็น​บุตร​นั้น​ก็​ปรึก‌ษา​กัน​ว่า ‘คน‍นี้​แหละ​เป็น​ทา‌ยาท ให้​เรา​ฆ่า​มัน มรดก​จะ​ได้​ตก‍เป็น​ของ​เรา’

15 ดัง‍นั้น​พวก‍เขา​จึง​ขับ‍ไล่​บุตร​นั้น​ออก​ไป​นอก‍สวน​แล้ว​ฆ่า​เสีย เมื่อ​เป็น​แบบ​นี้​เจ้า‍ของ​สวน​จะ​ทำ​อย่าง‍ไร​กับ​พวก‍เขา?

16 ท่าน​ก็​จะ​มา​ทำ‍ลาย​ชาว​สวน​เหล่า‍นี้​แล้ว​เอา​สวน‍องุ่น​นั้น​ให้​คน​อื่น” คน​ทั้ง‍หลาย​เมื่อ​ได้‍ยิน​จึง​พูด​ว่า “อย่า​ให้​เป็น​อย่าง​นั้น​เลย”

17 พระ‍องค์​ทรง​จ้อง‍ดู​พวก‍เขา​แล้ว​ตรัส​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​พระ‍วจนะ​ที่​เขียน​ไว้​หมาย‍ความ‍ว่า​อย่าง‍ไร​กัน? ‘ศิลา​ที่​พวก​ช่าง‍ก่อ​ทิ้ง​แล้ว กลับ​กลาย​เป็น​ศิลา‍มุม‍เอก’

18 ทุก‍คน​ที่​ล้ม​ทับ​ศิลา​นั้น จะ​ต้อง​แตก​หัก​ไป และ​ถ้า​มัน​ตก‍ทับ​ใคร คน‍นั้น​จะ​แหลก​ละ‌เอียด​ไป”

19 เมื่อ​พวก​ธรร‌มา‌จารย์​และ​พวก​หัว‍หน้า​ปุ‌โร‌หิต​รู้​ว่า​พระ‍องค์​ตรัส​อุปมา​นั้น​กระ‌ทบ​พวก‍เขา​เอง ก็​อยาก​จะ​จับ​พระ‍องค์​ทัน‍ที แต่​พวก‍เขา​กลัว​ประ‌ชา‍ชน

การ​ส่ง​ส่วย​ให้​กับ​ซี‌ซาร์

20 พวก‍เขา​จึง​คอย‍ดู​พระ‍องค์ และ​ใช้​ให้​บาง‍คน​แสร้ง​ทำ​ตัว​เป็น​คน​ชอบ‍ธรรม​ตาม​ไป​สอด‍แนม หวัง​จะ​จับ​ผิด​ใน​คำ‍สอน​ของ​พระ‍องค์ เพื่อ​จะ​มอบ​พระ‍องค์​ไว้​ใต้​สิทธิ‍อำนาจ​ของ​เจ้า‍เมือง

21 พวก‍เขา​จึง​ทูล​ถาม​พระ‍องค์​ว่า “ท่าน​อา‌จารย์ เรา​ทราบ​อยู่​ว่า​ท่าน​กล่าว​และ​สั่ง‍สอน​แต่​ความ​จริง ไม่​เคย​เห็น​แก่​หน้า​ใคร แต่​สั่ง‍สอน​ทาง​ของ​พระ‍เจ้า​จริงๆ

22 การ​ส่ง​ส่วย​ให้​แก่​ซี‌ซาร์​นั้น​ควร​หรือ​ไม่?”

23 พระ‍องค์​ทรง​หยั่ง‍รู้​อุบาย​ของ​พวก‍เขา จึง​ตรัส​กับ​เขา​ว่า

24 “จง​เอา​เงิน​เด‌นา‌ริ‌อัน​เหรียญ​หนึ่ง​มา​ให้​เรา​ดู รูป​และ​คำ​จา‌รึก​นี้​เป็น​ของ​ใคร?” เขา​ทูล​ตอบ​ว่า “ของ​ซี‌ซาร์”

25 แล้ว​พระ‍องค์​ตรัส​กับ​พวก‍เขา​ว่า “ของ​ของ​ซี‌ซาร์​จง​ถวาย​แก่​ซี‌ซาร์ และ​ของ​ของ​พระ‍เจ้า​จง​ถวาย​แด่​พระ‍เจ้า”

26 พวก‍เขา​จึง​จับ​ผิด​ใน​คำ‍สอน​ของ​พระ‍องค์​ต่อ‍หน้า​ประ‌ชา‍ชน​ไม่‍ได้ และ​เขา​ก็​ประ‌หลาด‍ใจ​ใน​คำ‍ตอบ​ของ​พระ‍องค์​จึง​เงียบ​ไป

คำ​ถาม​เรื่อง​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย

27 มี​พวก​สะ‌ดู‌สี​บาง‍คน​มา‍หา​พระ‍องค์ คน​พวก‍นี้​บอก​ว่า​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​นั้น​ไม่‍มี

28 พวก‍เขา​ทูล​ถาม​พระ‍องค์​ว่า “ท่าน​อา‌จารย์ โม‌เสส​เขียน​สั่ง​เรา​ไว้​ว่า ‘ถ้า​ผู้‍ชาย​คน‍ไหน​ตาย และ​มี​ภรรยาแต่​ไม่‍มี​บุตร ก็​ให้​น้อง‍ชาย​รับ​พี่‍สะใภ้​นั้น​ไว้​เป็น​ภรรยา​ของ​ตน เพื่อ​มี​บุตร​สืบ‍ตระ‌กูล​ให้​พี่‍ชาย’

29 ปรา‌กฏ​ว่า​มี​พี่‍น้อง​ผู้‍ชาย​อยู่​เจ็ด​คน พี่​คน​โต​มี​ภรรยา​แล้ว​ก็​ตาย​ไม่‍มี​บุตร

30 น้อง​คน​ที่​สอง

31 และ​คน​ที่​สาม​ก็​รับ​ผู้‍หญิง​คน​นั้น​มา​เป็น​ภรรยา ทั้ง​เจ็ด​คน​เหมือน‍กัน​หมด​คือ​ไม่‍มี​บุตร​แล้ว​ก็​ตาย

32 ใน​ที่‍สุด​ผู้‍หญิง​คน​นั้น​ก็​ตาย​ด้วย

33 เมื่อ​เป็น​แบบ​นั้น ใน​วัน‍ที่​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย หญิง​คน​นั้น​จะ​เป็น​ภรรยา​ของ​ใคร? เพราะ​นาง​ตก​เป็น​ภรรยา​ของ​ชาย​ทั้ง​เจ็ด​คน​แล้ว”

34 พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​พวก‍เขา​ว่า “คน​ยุค‍นี้​มี​การ​สมรส​กัน​และ​ยก​ให้​เป็น​สามี​ภรรยา​กัน

35 แต่​คน​ที่​นับ‍ว่า​สม‍ควร​กับ​การ​อยู่​ใน​ยุค‍หน้า และ​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย จะ​ไม่‍มี​การ​สมรส​กัน​หรือ​ยก​ให้​เป็น​สามี​ภรรยา​กัน​อีก

36 อัน‍ที่‍จริง​พวก‍เขา​จะ​ตาย​อีก​ไม่‍ได้ เพราะ​เขา​เป็น​เหมือน​ทูต‍สวรรค์ และ​เป็น​บุตร​ของ​พระ‍เจ้า คือ​บุตร​ของ​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย

37 เรื่อง​ที่​พระ‍เจ้า​ทรง​ทำ​ให้​คน​ที่​ตาย​แล้ว​เป็น​ขึ้น​มา​ใหม่​นั้น โม‌เสส​ก็​สำแดง​ไว้​ใน​เรื่อง​พุ่ม‍ไม้ ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​ท่าน​เรียก​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ว่า ‘พระ‍เจ้า​ของ​อับ‌รา‌ฮัม พระ‍เจ้า​ของ​อิส‌อัค และ​พระ‍เจ้า​ของ​ยา‌โคบ’

38 พระ‍องค์​ไม่‍ได้​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​คน‍ตาย แต่​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​คน​เป็น เพราะ‍ว่า​จำ‍เพาะ​พระ‍เจ้า​ทุก‍คน​ยัง​เป็น​อยู่”

39 ธรร‌มา‌จารย์​บาง‍คน​จึง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ท่าน​อา‌จารย์ ท่าน​พูด​ได้​ดี​ที‍เดียว”

40 เนื่อง‍จาก​พวก‍เขา​ไม่​กล้า​ทูล​ถาม​พระ‍องค์​ต่อ‍ไป​อีก

คำ‍ถาม​เรื่อง​เชื้อ‍สาย​ของ​ดาวิด

41 พระ‍องค์​จึง​ตรัส​ถาม​พวก‍เขา​ว่า “ที่​มี​คน​ว่า พระ‍คริสต์​ทรง​เป็น​เชื้อ‍สาย​ของ​ดาวิด​นั้น​เป็น​ไป​ได้​อย่าง‍ไร?

42 เนื่อง‍จาก​ดาวิด​เอง​ก็​กล่าว​ไว้​ใน​พระ‍ธรรม​สดุดี​ว่า ‘พระ‍เจ้า ตรัส​กับ​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ของ​ข้าพ‌เจ้า​ว่า “จง​นั่ง​ด้าน​ขวา‍มือ​ของ​เรา

43 จน‍กว่า​เรา​จะ​ทำ​ให้​ศัตรู​ของ​ท่าน เป็น​ที่​รอง​เท้า​ของ​ท่าน” ’

44 ใน​เมื่อ​ดาวิด​ยัง​เรียก​ท่าน​ว่า​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า แล้ว​ท่าน​จะ​เป็น​เพียง​เชื้อ‍สาย​ของ​ดาวิด​ได้​อย่าง‍ไร?”

การ​ทรง​ประ‌ณาม​พวก​ธรร‌มา‌จารย์

45 ขณะ​ประ‌ชา‍ชน​ทั้ง‍หมด​กำลัง​ฟัง​อยู่ พระ‍องค์​ตรัส​กับ​บรร‌ดา​สาวก​ของ​พระ‍องค์​ว่า

46 “จง​ระวัง​พวก​ธรร‌มา‌จารย์​ให้​ดี พวก​ที่​ชอบ​สวม​เสื้อ‍คลุม​ยาว​เดิน​ไป​เดิน​มา ชอบ​ให้​คน​คำ‍นับ​กลาง‍ตลาด ชอบ​ที่‍นั่ง​สำคัญ​ใน​ธรรม‍ศาลา​และ​ที่​มี​เกียรติ​ใน​งาน​เลี้ยง

47 พวก‍เขา​ยึด​บ้าน​ของ​หญิง‍ม่าย​และ​แสร้ง​อธิษ‌ฐาน​เสีย​ยืด‍ยาว คน​พวก‍นี้​จะ​ต้อง​ถูก​ลง‍โทษ​หนัก​ยิ่ง‍ขึ้น”

บท

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24