ปัญ‌ญา‌จารย์ 2:12-18 TH1971

12 ข้าพ‌เจ้า​จึง​หัน​มา​พิเคราะห์​สติ​ปัญ‌ญา ความ​บ้า‍บอ และ​ความ​เขลา เพราะ​คน​ที่​มา​ภาย‍หลัง​กษัตริย์ จะ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง เขา​ก็​กระ‌ทำ​สิ่ง​ที่​เขา​กระ‌ทำ​กัน​มา​นาน​แล้ว​นั้น​ได้

13 ข้าพ‌เจ้า​เห็น​ว่า​สติ​ปัญ‌ญา​วิเศษ​กว่า​ความ​เขลา เหมือน​ความ​สว่าง​วิเศษ​กว่า​ความ​มืด

14 คน​มี​สติ​ปัญ‌ญา​มี​ตา​อยู่​ใน​สมอง แต่​คน​เขลา​เดิน​ใน​ความ​มืด ถึง​กระ‌นั้น​ข้าพ‌เจ้า​ยัง​เห็น​ว่า เคราะห์​อย่าง​เดียว​กัน​เกิด​ขึ้น​แก่​เขา​ทั้ง‍มวล

15 ข้าพ‌เจ้า​จึง​รำ‌พึง​ว่า “เคราะห์​กรรม​อัน​ใด​เกิด​แก่​คน​เขลา​ฉัน‍ใด ก็​คง​จะ​เกิด​กับ​ตัว​ข้าพ‌เจ้า​ฉัน​นั้น ถ้า​กระ‌นั้น​แล้ว​ข้าพ‌เจ้า​จะ​มี​สติ​ปัญ‌ญา​มาก‍มาย​ทำไม​เล่า” ข้าพ‌เจ้า​จึง​รำ‌พึง​ว่า​เรื่อง​นี้​ก็​อนิจ‌จัง​เหมือน​กัน

16 เพราะ​ไม่‍มี​ใคร​ระลึก​ถึง​คน​มี​สติ​ปัญ‌ญา​เช่น เดียว​กับ​คน​เขลา ด้วย​เห็น​ว่า​ใน​อนา‌คต​ก็​ลืม​กัน​ไป​หมด​แล้ว พุท‌โธ่ คน​มี​สติ​ปัญ‌ญา​ก็​ตาย​เหมือน​คน​เขลา

17 ข้าพ‌เจ้า​จึง​เกลียด​ชีวิต เพราะ​ว่า​การ​งาน​ที่​เขา​ทำ​กัน​ภาย‍ใต้ ดวง​อา‌ทิตย์​ก่อ​ความ​สลด‍ใจ​ให้​แก่​ข้าพ‌เจ้า เพราะ​สาร‌พัด​ก็​อนิจ‌จัง​คือ​กิน​ลม​กิน​แล้ง

18 ข้าพ‌เจ้า​เกลียด​การ​งาน​ทั้ง‍สิ้น​ของ​ข้าพ‌เจ้า ซึ่ง​ข้าพ‌เจ้า​ตราก‌ตรำ​อยู่​ภาย‍ใต้​ดวง​อา‌ทิตย์ เพราะ​ข้าพ‌เจ้า​จำ​ต้อง​ละ​การ​นั้น​ไว้​ให้ แก่​คน​ที่​มา​ภาย‍หลัง​ข้าพ‌เจ้า