16 “ถ้าผู้ใดถวายที่ดินส่วนหนึ่งแด่พระเจ้าซึ่งเป็น มรดกตกแก่เขา ให้เจ้ากำหนดราคาของที่ดินตามจำนวนพันธุ์พืช ที่หว่านลงในดินนั้น ถ้าที่นาใช้พันธุ์บารลีหนึ่งโฮเมอร์ ให้กำหนดราคาเป็นเงินห้าสิบเชเขล
17 ถ้าเขาถวายนาในปีเสียงเขาสัตว์ ก็ให้คงเต็มราคาที่เจ้ากำหนด
18 ถ้าเขาถวายที่นาภายหลังปีเสียงเขาสัตว์ ก็ให้ปุโรหิตคำนวณค่าเงิน ตามจำนวนปีที่เหลืออยู่กว่าจะถึงปีเสียงเขาสัตว์ ให้หักเสียจากราคาที่เจ้ากำหนด
19 ถ้าผู้ที่ถวายนาประสงค์จะไถ่นานั้น ก็ให้เขาเพิ่มค่าเงินอีกหนึ่งในห้าของกำหนดราคาที่ตีไว้ แล้วนานั้นจะเป็นของเขา
20 แต่ถ้าเขาไม่ประสงค์ที่จะไถ่นา หรือเขาได้ขายนานั้นให้แก่อีกคนหนึ่งแล้ว ก็อย่าให้ไถ่อีกเลย
21 แต่นานั้นเมื่อเขาต้องสละในปี เสียงเขาสัตว์ก็เป็นของบริสุทธิ์แด่ พระเจ้าเพราะเป็นนาที่ถวายไว้ ปุโรหิตจึงเข้าถือกรรมสิทธิ์นานั้นได้
22 ถ้าคนใดซื้อนามาถวายแด่พระเจ้า ซึ่งไม่ใช่ส่วนมรดกที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา