ยอห์น 4 TH1971

พระ‍เยซู​กับ​หญิง​ชาว​สะ‌มา‌เรีย

1 เมื่อ​พระ‍เยซู​ทรง‍ทราบ​ว่า พวก​ฟา‌ริสี​ได้​ยิน​ข่าว​ว่า พระ‍องค์​ทรง‍มี​สา‌วก​และ​ให้​บัพ‌ติศ‌มา​มาก‍กว่า​ยอห์น

2 (ความ‍จริง​พระ‍เยซู​ไม่​ได้​ทรง​ให้​บัพ‌ติศ‌มา​เอง แต่​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์​เป็น​ผู้​ให้)

3 พระ‍องค์​จึง​เสด็จ​ออก‍จาก​แคว้น​ยู‌เดีย​และ​กลับ​ไป​ยัง​แคว้น​กา‌ลิลี​อีก

4 พระ‍องค์​จำ‍ต้อง​เสด็จ​ผ่าน​แคว้น​สะ‌มา‌เรีย

5 พระ‍องค์​จึง​เสด็จ​ไป​ถึง​เมือง​หนึ่ง ชื่อ​สิคาร์​ใน​แคว้น​สะ‌มา‌เรีย ใกล้​ที่​ดิน​ซึ่ง​ยา‌โคบ​ให้​แก่​โย‌เซฟ​บุตร​ของ​ตน

6 บ่อ‍น้ำ​ของ​ยา‌โคบ​อยู่​ที่​นั่น พระ‍เยซู​ทรง​ดำ‌เนิน​ทาง​มา​เหน็ด‍เหนื่อย จึง​ประ‌ทับ​ลง​ที่​ข้าง​บ่อ​นั้น เป็น​เวลา​ประ‌มาณ​เที่ยง

7 มี​หญิง​ชาว​สะ‌มา‌เรีย​คน‍หนึ่ง​มา​ตัก​น้ำ พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​นาง​ว่า “ขอ​น้ำ​ให้​เรา​ดื่ม​บ้าง”

8 ขณะ​นั้น​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์​เข้า​ไป​ซื้อ​อา‌หาร​ใน​เมือง

9 หญิง​ชาว​สะ‌มา‌เรีย​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ไฉน​ท่าน​ผู้​เป็น​ยิว​จึง​ขอ​น้ำ​ดื่ม​จาก​ดิฉัน ผู้​เป็น​หญิง​ชาว​สะ‌มา‌เรีย” (เพราะ​พวก‍ยิว​ไม่​คบ‍หา​ชาว​สะ‌มา‌เรีย​เลย)

10 พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​นาง​ว่า “ถ้า​เจ้า​ได้​รู้‍จัก​ของ​ที่​พระ‍เจ้า​ประ‌ทาน และ​รู้‍จัก​ผู้​ที่​พูด​กับ​เจ้า​ว่า ‘ขอ​น้ำ​ให้​เรา​ดื่ม​บ้าง’ เจ้า​ก็​คง‍จะ​ได้​ขอ​จาก​ท่าน​ผู้​นั้น และ​ท่าน​ผู้​นั้น​ก็​คง‍จะ​ให้​น้ำ​ธำ‌รง​ชีวิต​แก่​เจ้า”

11 นาง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ท่าน​เจ้า​คะ ท่าน​ไม่​มี​ถัง​ตัก และ​บ่อ​นี้​ก็​ลึก ท่าน​จะ​ได้​น้ำ​ธำ‌รง​ชีวิต​นั้น​มา​จาก​ไหน

12 ท่าน​เป็น​ใหญ่‍กว่า​ยา‌โคบ​บรรพ‌บุรุษ​ของ​เรา ผู้​ได้​ให้​บ่อ‍น้ำ​นี้​แก่​เรา​หรือ และ​ยา‌โคบ​เอง​ก็​ได้​ดื่ม​จาก​บ่อ​นี้​รวม​ทั้ง​บุตร​และ​ฝูง​สัตว์​ของ​ท่าน​ด้วย”

13 พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “ทุก‍คน​ที่​ดื่ม​น้ำ​นี้​จะ​กระ‌หาย​อีก

14 แต่​ผู้​ที่​ดื่ม​น้ำ​ซึ่ง​เรา​จะ​ให้​แก่​เขา​นั้น จะ​ไม่​กระ‌หาย​อีก​เลย น้ำ​ซึ่ง​เรา​จะ​ให้​เขา​นั้น จะ​บัง‍เกิด​เป็น​บ่อ​น้ำ‍พุ​ใน​ตัว​เขา​พลุ่ง​ขึ้น​ถึง​ชีวิต​นิรันดร์”

15 นาง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ท่าน​เจ้า​คะ ขอ​น้ำ​นั้น​ให้​ดิฉัน​เถิด เพื่อ​ดิฉัน​จะ​ได้​ไม่​กระ‌หาย​อีก และ​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​มา​ตัก​ที่​นี่”

16 พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​นาง​ว่า “ไป​เรียก​ผัว​ของ​เจ้า​มา​นี่​เถิด”

17 นาง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ดิฉัน​ไม่‍มี​ผัว​ค่ะ” พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​นาง​ว่า “เจ้า​พูด​ถูก​แล้ว​ว่า​ผัว​ไม่​มี

18 เพราะ​เจ้า​ได้​มี​ผัว​ห้า​คน​แล้ว และ​คน​ที่​เจ้า​มี​อยู่​เดี๋ยว‍นี้​ก็​ไม่​ใช่​ผัว​ของ​เจ้า เรื่อง‍นี้​เจ้า​พูด​จริง”

19 นาง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ท่าน​เจ้า​คะ ดิฉัน​เห็น​จริง​แล้ว​ว่า​ท่าน​เป็น​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ

20 บรรพ‌บุรุษ​ของ​พวก​เรา​นมัส‌การ​ที่​ภูเขา​นี้ แต่​พวก‍ท่าน​ว่า​ตำ‌บล​ที่​ควร​นมัส‌การ​นั้น คือ​เย‌รู‌ซา‌เล็ม”

21 พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​นาง​ว่า “หญิง​เอ๋ย เชื่อ​เรา​เถิด คง​มี​วัน‍หนึ่ง​ที่​พวก​เจ้า​จะ​มิ​ได้​ไหว้​นมัส‌การ​พระ‍บิดา เฉพาะ​ที่​ภูเขา​นี้​หรือ​ที่​เย‌รู‌ซา‌เล็ม

22 ซึ่ง​เจ้า​นมัส‌การ​นั้น​เจ้า​ไม่​รู้‍จัก ซึ่ง​พวก​เรา​นมัส‌การ​เรา​รู้‍จัก เพราะ​ความ​รอด​นั้น​มา​จาก​พวก‍ยิว

23 แต่​วาระ​นั้น​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว และ​บัด‍นี้​ก็​ถึง​แล้ว คือ​เมื่อ​ผู้​ที่​นมัส‌การ​อย่าง​ถูก​ต้อง​จะ​นมัส‌การ​พระ‍บิดา ด้วย​จิต‍วิญ‌ญาณ​และ​ความ​จริง เพราะ​ว่า​พระ‍บิดา​ทรง​แสวง‍หา​คน​เช่น​นั้น​นมัส‌การ​พระ‍องค์

24 พระ‍เจ้า​ทรง​เป็น​พระ‍วิญ‌ญาณ และ​ผู้​ที่​นมัส‌การ​พระ‍องค์ ต้อง​นมัส‌การ​ด้วย​จิต‍วิญ‌ญาณ​และ​ความ‍จริง”

25 นาง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ดิฉัน​ทราบ​ว่า​พระ‍เมส‌สิ‌ยาห์ (ที่​เรียก‍ว่า​พระ‍คริสต์) จะ​เสด็จ​มา เมื่อ​พระ‍องค์​เสด็จ​มา พระ‍องค์​จะ​ทรง​ชี้‍แจง​ทุก​สิ่ง​แก่​เรา”

26 พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​นาง​ว่า “เรา​ที่​พูด​กับ​เจ้า​คือ​ท่าน​ผู้​นั้น”

27 ขณะ​นั้น​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์​ก็​มา​ถึง เขา​ประ‌หลาด​ใจ​ที่​พระ‍องค์​ทรง​สนทนา​กับ​ผู้หญิง แต่​ไม่‍มี​ใคร​ถาม​ว่า “พระ‍องค์​ทรง​ประ‌สงค์​อะไร” หรือ “ทำไม​พระ‍องค์​จึง​ทรง​สนทนา​กับ​นาง”

28 หญิง​นั้น​จึง​ทิ้ง​หม้อ‍น้ำ​ไว้​และ​เข้า​ไป​ใน​เมือง​บอก​คน​ทั้ง‍ปวง​ว่า

29 “มา​เถิด มา​ดู​ท่าน​ผู้‍หนึ่ง​ที่​เล่า​ถึง​สิ่ง​สาร‌พัด​ซึ่ง​ฉัน​ได้​กระ‌ทำ ท่าน​ผู้​นี้​จะ​เป็น​พระ‍คริสต์​ได้​ไหม”

30 คน​ทั้ง‍หลาย​จึง​พา​กัน​ออก​จาก​เมือง​ไป​หา​พระ‍องค์

31 ใน​ระหว่าง​นั้น​พวก​สา‌วก​ทูล‍เชิญ​พระ‍องค์​ว่า “พระ‍อา‌จารย์​เจ้า‍ข้า เชิญ​รับ‍ประ‌ทาน​เถิด”

32 แต่​พระ‍องค์​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “เรา​มี​อา‌หาร​รับ‍ประ‌ทาน​ที่​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ไม่​รู้”

33 พวก​สา‌วก​จึง​ถาม​กัน​ว่า “มี​ใคร​เอา​อา‌หาร​มา​ถวาย​พระ‍องค์​แล้ว​หรือ”

34 พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “อา‌หาร​ของ​เรา​คือ​การ​กระ‌ทำ​ตาม​พระ‍ทัย​ของ​พระ‍องค์ ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา และ​ทำ​ให้​งาน​ของ​พระ‍องค์​สำ‌เร็จ

35 ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า อีก​สี่​เดือน​จะ​ถึง​ฤดู​เกี่ยว‍ข้าว​มิ​ใช่​หรือ เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า เงย​หน้า​ขึ้น​ดู​นา​เถิด ว่า​ทุ่ง‍นา​เหลือง‍อร่าม ถึง​เวลา​เกี่ยว​แล้ว

36 คน​เกี่ยว​ก็​กำ‌ลัง​ได้​รับ​ค่า‍จ้าง และ​กำ‌ลัง​ส่ำ‍สม​พืช‍ผล​ไว้​สำ‌หรับ​ชีวิต​นิรันดร์ เพื่อ​ทั้ง​คน‍หว่าน​และ​คน​เกี่ยว​จะ​ชื่น‍ชม​ยินดี​ด้วย​กัน

37 เพราะ​ใน​เรื่อง‍นี้​คำ​ที่​กล่าว​ไว้​นี้​เป็น​ความ​จริง คือ ‘คน‍หนึ่ง​หว่าน​และ​อีก​คน‍หนึ่ง​เกี่ยว’

38 เรา​ใช้​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ไป​เกี่ยว​สิ่ง​ที่​ท่าน​มิ​ได้​ลง​แรง​ทำ คน‍อื่น​ได้​ลง​แรง​ทำ และ​ท่าน​ได้​รับ​ประ‌โยชน์​จาก​แรง​ของ​เขา”

39 ชาว​สะ‌มา‌เรีย​เป็น​อัน​มาก​ที่​มา​จาก​เมือง​นั้น ได้​มี​ศรัท‌ธา​ใน​พระ‍องค์​เพราะ​คำ​พยาน​ของ​หญิง​ผู้​นั้น​ที่​ว่า “ท่าน​เล่า​ถึง​สิ่ง​สาร‌พัด​ซึ่ง​ฉัน​ได้​ทำ”

40 ฉะนั้น​เมื่อ​ชาว​สะ‌มา‌เรีย​มา​ถึง​พระ‍องค์ เขา​จึง​ทูล​เชิญ​พระ‍องค์​ให้​ประ‌ทับ​อยู่​กับ​เขา และ​พระ‍องค์​ก็​ประ‌ทับ​ที่​นั่น​สอง​วัน

41 และ​คน‍อื่น​เป็น​จำ‌นวน​มาก​ได้​วาง‍ใจ เพราะ​พระ‍ดำ‌รัส​ของ​พระ‍องค์

42 เขา​เหล่า​นั้น​พูด​กับ​หญิง​นั้น​ว่า “ตั้ง‍แต่​นี้​ไป​ที่​เรา​เชื่อ​นั้น​มิ​ใช่​เพราะ​คำ​ของ​เจ้า แต่​เพราะ​เรา​ได้​ยิน​เอง และ​เรา​รู้​ว่า​ท่าน​องค์​นี้​แหละ​เป็น​พระ‍ผู้​ช่วย​โลก​ให้​รอด​ที่​แท้‍จริง”

พระ‍เยซู​ทรง​รัก‌ษา​บุตร‍ชาย ของ​ข้า‍ราช‍การ​คน‍หนึ่ง

43 ครั้น​ล่วง​ไป​สอง​วัน​พระ‍องค์​ก็​เสด็จ​ออก​จาก​ที่​นั่น​ไป​ยัง​แคว้น​กา‌ลิลี

44 เพราะ​พระ‍เยซู​เอง​ทรง​เป็น​พยาน​ว่า ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​นั้น​ไม่​ได้​รับ​เกียรติ​ใน​เมือง​ของ​ตน

45 ฉะนั้น​เมื่อ​พระ‍องค์​เสด็จ​ไป​ถึง​แคว้น​กา‌ลิลี ชาว​กา‌ลิลี​ได้​ต้อน‍รับ​พระ‍องค์ เพราะ​เขา​ได้​เห็น​ทุก​สิ่ง​ซึ่ง​พระ‍องค์​ได้​ทรง​กระ‌ทำ​ใน​เทศ‌กาล ณ กรุง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม เพราะ​เขา​ทั้ง‍หลาย​ก็​ได้​ไป​ใน​เทศ‌กาล​นั้น​ด้วย

46 ฉะนั้น​พระ‍องค์​จึง​ได้​เสด็จ​ไป​ยัง​หมู่‍บ้าน​คา‌นา​แคว้น​กา‌ลิลี​อีก อัน​เป็น​ที่​ซึ่ง​พระ‍องค์​ทรง​กระ‌ทำ​ให้​น้ำ​กลาย​เป็น​เหล้า‍องุ่น และ​ที่​เมือง​คา‌เปอร‌นา‌อุม​มี​ข้า‍ราช‍การ​คน​หนึ่ง บุตร‍ชาย​ของ​ท่าน​ป่วย​หนัก

47 เมื่อ​ท่าน​ได้​ทราบ​ข่าว​ว่า พระ‍เยซู​ได้​เสด็จ​จาก​แคว้น​ยู‌เดีย​ไป​ยัง​แคว้น​กา‌ลิลี​แล้ว ท่าน​จึง​ไป​ทูล​อ้อน‍วอน​พระ‍องค์​ให้​เสด็จ​ไป​รัก‌ษา​บุตร​ของ​ตน เพราะ​บุตร​จวน​จะ​ตาย​แล้ว

48 พระ‍เยซู​จึง​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “ถ้า​พวก‍ท่าน​ไม่​เห็น​หมาย‍สำ‌คัญ​และ​การ​อัศ‌จรรย์ ท่าน​ก็​จะ​ไม่​เชื่อ”

49 ข้า‍ราช‍การ​ผู้​นั้น​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “พระ‍องค์​เจ้า‍ข้า​ขอ​เสด็จ​ไป​ก่อน​ที่​บุตร​ของ​ข้า‍พระ‍องค์​จะ​ตาย”

50 พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “กลับ​ไป​เถิด บุตร​ของ​ท่าน​จะ​ไม่​ตาย” ข้า‍ราช‍การ​ผู้​นั้น​เชื่อ​พระ‍ดำ‌รัส​ที่​พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​ท่าน จึง​ทูล​ลา​ไป

51 ขณะ​ที่​ท่าน​กลับ​ไป​นั้น พวก‍บ่าว​ของ​ท่าน​ได้​มา​พบ​และ​เรียน​ท่าน​ว่า บุตร​ของ​ท่าน​หาย​แล้ว

52 ท่าน​จึง​ถาม​ถึง​เวลา​ที่​บุตร​ค่อย​ทุเลา​ขึ้น​นั้น และ​พวก‍บ่าว​ก็​เรียน​ท่าน​ว่า “ไข้​หาย​เมื่อ​วาน​นี้​เวลา​บ่าย​โมง”

53 บิดา​จึง​รู้​ว่า​ชั่ว‍โมง​นั้น​เป็น​เวลา​ที่​พระ‍เยซู​ได้​ตรัส​กับ​ตน​ว่า “บุตร​ของ​ท่าน​จะ​ไม่​ตาย” และ​ท่าน​เอง​ก็​เชื่อ​พร้อม​ทั้ง​ครัว‍เรือน​ของ​ท่าน​ด้วย

54 นี่​เป็น​หมาย‍สำ‌คัญ​ที่​สอง​ซึ่ง​พระ‍เยซู​ทรง​กระ‌ทำ เมื่อ​พระ‍องค์​เสด็จ​จาก​แคว้น​ยู‌เดีย​ไป​ยัง​แคว้น​กาลิลี

บท

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21