ลูกา 6 TH1971

สา‌วก​เด็ด​รวง​ข้าว​ใน​วัน​สะ‌บา‌โต

1 ใน​วัน​สะ‌บา‌โต​วัน‍หนึ่ง พระ‍องค์​กำ‌ลัง​เสด็จ​ไป​ที่​ใน​นา และ​พวก​ศิษย์​ของ​พระ‍องค์​ก็​เด็ด​รวง​ข้าว​ขยี้​กิน

2 บาง‍คน​ใน​พวก​ฟา‌ริสี​จึง​กล่าว​ว่า “ทำไม​พวก​ท่าน​จึง​ทำ​การ​ซึ่ง​ต้อง‍ห้าม​ใน​วัน​สะ‌บา‌โต”

3 พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ยัง​ไม่​ได้​อ่าน​เรื่อง‍นี้​อีก​หรือ ที่​ดา‌วิด​ได้​กระ‌ทำ​เมื่อ​อด‍อยาก ทั้ง​ท่าน​และ​พรรค‍พวก​ด้วย

4 คือ​ท่าน​ได้​เข้า​ไป​ใน​พระ‍นิเวศ​ของ​พระ‍เจ้า และ​รับ‍ประ‌ทาน​ขนม‍ปัง​หน้า​พระ‍พักตร์ ทั้ง​ให้​พรรค‍พวก​ด้วย ซึ่ง​กฎ‍หมาย​ห้าม​ใคร​รับ‍ประ‌ทาน เว้น​แต่​พวก​ปุโร‌หิต​เท่า‍นั้น”

5 พระ‍องค์​จึง​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “บุตร‍มนุษย์​เป็น​เจ้า​เป็น​นาย​เหนือ​วัน​สะ‌บา‌โต”

ชาย​ที่​มือ‍ลีบ

6 ใน​วัน​สะ‌บา‌โต​อีก​วัน‍หนึ่ง พระ‍องค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​ธรรม‍ศาลา​และ​สั่ง‍สอน ที่‍นั่น​มี​คน‍หนึ่ง​มือ‍ขวา​ลีบ

7 ฝ่าย​พวก​ธรร‌มา‌จารย์​และ​พวก​ฟา‌ริสี​คอย‍ดู​พระ‍องค์​ว่า พระ‍องค์​จะ​ทรง​รัก‌ษา​เขา​ใน​วัน​สะ‌บา‌โต​หรือ​ไม่ เพื่อ​จะ​หา​เหตุ​ฟ้อง​พระ‍องค์​ได้

8 แต่​พระ‍องค์​ทรง‍ทราบ​ความ​คิด​ของ​เขา จึง​ตรัส​แก่​คน​มือ‍ลีบ​นั้น​ว่า “จง​ลุก​ขึ้น​มา​ยืน​อยู่​ข้าง‍หน้า” เขา​ก็​ลุก​ขึ้น​ยืน

9 แล้ว​พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​เขา​ทั้ง‍หลาย​ว่า “เรา​จะ​ถาม​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า ใน​วัน​สะ‌บา‌โต​ควร​จะ​ทำ​การ​ดี​หรือ​ควร​จะ​ทำ​ร้าย จะ​ช่วย​ชีวิต​ดี​หรือ​จะ​ผลาญ​ชีวิต​เสีย​ดี”

10 พระ‍องค์​จึง​ทอด‍พระ‍เนตร​ดู​ทุก‍คน​โดย​รอบ แล้ว​ตรัส​กับ​คน​มือ‍ลีบ​นั้น​ว่า “จง​เหยียด‍มือ​ออก​เถิด” เขา​ก็​กระ‌ทำ​ตาม และ​มือ​ของ​เขา​ก็​หาย​เป็น​ปกติ

11 ฝ่าย​คน​เหล่า​นั้น​ต่าง​ก็​มี​ความ​เดือด‍ดาล และ​ปรึก‌ษา​กัน​ว่า​จะ​กระ‌ทำ​อย่าง‍ไร​แก่​พระ‍เยซู​ได้

พระ‍เยซู​ทรง​เลือก​สา‌วก​สิบ‍สอง​คน

12 คราว‍นั้น​พระ‍เยซู​เสด็จ​ไป​ที่​ภูเขา​เพื่อ​จะ​อธิษ‌ฐาน และ​ได้​อธิษ‌ฐาน​ต่อ​พระ‍เจ้า​คืน‍ยัง‍รุ่ง

13 ครั้น​รุ่ง‍เช้า​แล้ว พระ‍องค์​ทรง​เรียก​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์ แล้ว​ทรง​เลือก​สิบ‍สอง​คน​ออก‍จาก​หมู่​สา‌วก​นั้น ที่​พระ‍องค์​ทรง​เรียก‍ว่า​อัคร‌ทูต

14 คือ​ซีโมน​ที่​พระ‍องค์​ทรง​ให้​ชื่อ​อีก​ว่า เป‌โตร อัน‌ดรูว์​น้อง‍ชาย​ของ​เป‌โตร ยา‌กอบ​และ​ยอห์น ฟีลิป​และ​บาร‌โธ‌โล‌มิว

15 มัท‌ธิว​และ​โธ‌มัส ยา‌กอบ​บุตร​อัล‌เฟ‌อัส ซีโมน​ที่​เรียก‍ว่า​เศ‌โล‌เท

16 ยู‌ดาส​บุตร​ของ​ยา‌กอบ และ​ยู‌ดาส อิส‌คา‌ริ‌โอท​ที่​เป็น​ผู้​อา‌ยัด​พระ‍องค์​ไว้​นั้น

พระ‍เยซู​ทรง​ปรน‌นิบัติ​มวล‍ชน

17 แล้ว​พระ‍องค์​กับ​อัคร‌ทูต​ก็​ลง​มา​ยืน ณ ที่​ราบ​แห่ง​หนึ่ง พร้อม​กับ​หมู่​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์ และ​ประ‌ชา‍ชน​เป็น​อัน​มาก ซึ่ง​มา​จาก​ทั่ว​แคว้น​ยู‌เดีย กรุง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม​และ​จาก​ตำ‌บล​ชาย‍ทะเล​ใน​เขต​เมือง​ไทระ และ​เมือง​ไซ‌ดอน​เพื่อ​จะ​ฟัง​พระ‍องค์ และ​ให้​พระ‍องค์​ทรง​รัก‌ษา​โรค​ของ​เขา

18 และ​บรร‌ดา​คน​ที่​ต้อง​ทน‍ทุกข์​เพราะ​ผี​โส‌โครก พระ‍องค์​ก็​ทรง​รัก‌ษา​ให้​หาย​ด้วย

19 ประ‌ชา‍ชน​ต่าง​ก็​พยา‌ยาม​ที่​จะ​ถูก​ต้อง​พระ‍องค์ เพราะ​ว่า​มี​ฤทธิ์​ซ่าน​ออก‍จาก​พระ‍องค์ รัก‌ษา​เขา​ให้​หาย​ทุก‍คน

พร​และ​วิบัติ

20 พระ‍องค์​ทอด‍พระ‍เนตร​แล​ดู​เหล่า​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์​ตรัส​ว่า“ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​เป็น​คน​ยาก‍จน​ก็​เป็น​สุข เพราะ​ว่า​แผ่น‍ดิน​ของ​พระ‍เจ้า​เป็น​ของ​ท่าน

21 “ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​อด‍อยาก​เวลา​นี้​ก็​เป็น​สุข เพราะ​ว่า​ท่าน​จะ​ได้​อิ่ม‍หนำ“ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​ร้อง‍ไห้​เวลา​นี้​ก็​เป็น​สุข เพราะ​ว่า​ท่าน​จะ​ได้​หัวเราะ

22 “ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จะ​เป็น​สุข เมื่อ​คน​ทั้ง‍หลาย​จะ​เกลียด‍ชัง​ท่าน และ​จะ​ไล่​ท่าน​ออก‍จาก​พวก​เขา และ​จะ​ประ‌ณาม​ท่าน และ​จะ​เหยียด​ชื่อ​ของ​ท่าน​ว่า​เป็น​คน​ชั่ว‍ช้า เพราะ​ท่าน​เห็น​แก่​บุตร‍มนุษย์

23 ใน​วัน​นั้น​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จง​ชื่น‍ชม และ​เต้น​โลด​ด้วย​ความ​ยินดี​เพราะ ดู‍เถิด บำ‌เหน็จ​ของ​ท่าน​มี​บริ‌บูรณ์​ใน​สวรรค์ เพราะ​ว่า​บรรพ‌บุรุษ​ของ​เขา ได้​กระ‌ทำ​อย่าง​นั้น​แก่​พวก​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​เหมือน​กัน

24 “แต่​วิบัติ​แก่​เจ้า​ทั้ง‍หลาย​ที่​มั่ง‍มี เพราะ​ว่า​เจ้า​ได้​รับ​สิ่ง​ที่​เล้า‍โลม​ใจ​แล้ว

25 “วิบัติ​แก่​เจ้า​ทั้ง‍หลาย​ที่​อิ่ม‍หนำ​เวลา​นี้ เพราะ​ว่า​เจ้า​จะ​อด‍อยาก“วิบัติ​แก่​เจ้า​ทั้ง‍หลาย​ที่​หัวเราะ​เวลา​นี้ เพราะ​ว่า​เจ้า​จะ​เป็น​ทุกข์​และ​ร้อง‍ไห้

26 “วิบัติ​แก่​เจ้า​ทั้ง‍หลาย เมื่อ​คน​ทั้ง‍หลาย​จะ​ยอ​ว่า​เจ้า​ดี เพราะ​บรรพ‌บุรุษ​ของ​เขา​ได้​กระ‌ทำ​อย่าง​นั้น​แก่​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​เท็จ​เหมือน​กัน

พึง​รัก​ศัตรู

27 “แต่​เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​กำ‌ลัง​ฟัง​อยู่​ว่า จง​รัก​ศัตรู​ของ​ท่าน จง​ทำ​ดี​แก่​ผู้​ที่​เกลียด‍ชัง​ท่าน

28 จง​อวย‍พร​แก่​คน​ที่​แช่ง‍ด่า​ท่าน จง​อธิษ‌ฐาน​เพื่อ​คน​ที่​เคี่ยว‍เข็ญ​ท่าน

29 ผู้‍ใด​ตบ​แก้ม​ของ​ท่าน​ข้าง‍หนึ่ง จง​หัน​อีก​ข้าง‍หนึ่ง​ให้​เขา​ด้วย และ​ผู้‍ใด​ริบ​เอา​เสื้อ‍คลุม​ของ​ท่าน​ไป ถ้า​เขา​จะ​เอา​เสื้อ​ด้วย​ก็​อย่า​หวง‍ห้าม

30 จง​ให้​แก่​ทุก‍คน​ที่​ขอ​จาก​ท่าน และ​ถ้า​ใคร​ได้​ริบ​ของ​ของ​ท่าน​ไป อย่า​ทวง​เอา​คืน

31 จง​ปฏิ‌บัติ​ต่อ​ผู้​อื่น​อย่าง​ที่​ท่าน​ปรารถ‌นา​ให้​เขา​ปฏิ‌บัติ​ต่อ​ท่าน

32 “แม้​ว่า​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​รัก​ผู้​ที่​รัก​ท่าน จะ​ทรง‍นับ​ว่า​เป็น​คุณ​อะไร​แก่​ท่าน ถึง​แม้​คน‍บาป​ก็​ยัง​รัก​ผู้​ที่​รัก​เขา​เหมือน​กัน

33 ถ้า​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ทำ​ดี​แก่​ผู้​ที่​ทำ​ดี​แก่​ท่าน จะ​ทรง‍นับ​ว่า​เป็น​คุณ​อะไร​แก่​ท่าน เพราะ​ว่า​คน‍บาป​ก็​กระ‌ทำ​เหมือน​กัน

34 ถ้า​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ให้​ยืม​เฉพาะ​แต่​ผู้​ที่​ท่าน​หวัง​จะ​ได้​คืน​จาก​เขา​อีก จะ​ทรง‍นับ​ว่า​เป็น​คุณ​อะไร​แก่​ท่าน ถึง​แม้​คน‍บาป​ก็​ยัง​ให้​คน‍บาป​ยืม โดย​หวัง​ว่า​จะ​ได้​รับ​คืน​จาก​เขา​เท่า​กัน

35 แต่​จง​รัก​ศัตรู​ของ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย และ​ทำ​การ​ดี​ต่อ​เขา จง​ให้​เขา​ยืม​โดย​ไม่‍หวัง​ที่​จะ​ได้​คืน​อีก บำ‌เหน็จ​ของ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จึง​จะ​มี​บริ‌บูรณ์ และ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จะ​เป็น​บุตร​ของ​พระ‍เจ้า​สูง​สุด เพราะ​ว่า​พระ‍องค์​ยัง​ทรง​โปรด​แก่​คน​อกตัญ‌ญู​และ​คน‍ชั่ว

36 ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จง​มี​ความ​เมต‌ตา​กรุณา เหมือน​อย่าง​พระ‍บิดา​ของ​ท่าน​มี​พระ‍ทัย​เมต‌ตา​กรุณา

การ‍กล่าว​โทษ​ผู้​อื่น

37 “อย่า​วินิจ‌ฉัย​โทษ​เขา และ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จะ​ไม่​ได้​ถูก​วินิจ‌ฉัย​โทษ อย่า​กล่าว​โทษ​เขา และ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จะ​ไม่​ถูก​กล่าว​โทษ จง​ยก​โทษ​ให้​เขา และ​เขา​จะ​ยก​โทษ​ให้​ท่าน

38 จง​ให้​เขา และ​ท่าน​จะ​ได้​รับ​ด้วย และ​ใน​ตัก​ของ​ท่าน​จะ​ได้​รับ​ตวง​ด้วย​ทะนาน​ถ้วน​ยัด​สั่น​แน่น​พูน‍ล้น​ใส่​ให้ เพราะ‍ว่า​ท่าน​จะ​ตวง​ให้​เขา​ด้วย​ทะนาน​อัน​ใด พระ‍เจ้า​จะ​ได้​ทรง‍ตวง​ให้​ท่าน​ด้วย​ทะนาน​อัน​นั้น”

39 พระ‍องค์​ตรัส​กับ​เขา​ทั้ง‍หลาย​เป็น​คำ​อุป‌มา​ด้วย ว่า “คน​ตา‍บอด​จะ​นำ‍ทาง​คน​ตา‍บอด​ได้​หรือ ทั้ง‍สอง​จะ​ไม่‍ตก​ลง​ไป​ใน​บ่อ​หรือ

40 ศิษย์​ไม่​ใหญ่‍กว่า​ครู แต่​ศิษย์​ทุก‍คน​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก‍สอน​ครบ​แล้ว ก็​จะ​เป็น​เหมือน​ครู​ของ​ตน

41 เหตุ​ไฉน​ท่าน​มอง​ดู​ผง​ที่​ใน​ตา​พี่‍น้อง​ของ​ท่าน แต่​ไม้​ทั้ง​ท่อน​ที่​อยู่​ใน​ตา​ของ​ท่าน ท่าน​ก็​ไม่​รู้‍สึก

42 เหตุ​ไฉน​ท่าน​จึง​จะ​พูด​กับ​พี่‍น้อง​ของ​ท่าน​ว่า ‘พี่‍น้อง​เอ๋ย ให้​เรา​เขี่ย​ผง​ออก‍จาก​ตา​ของ​เธอ’ แต่​ที่‍จริง​ท่าน​เอง​ยัง​ไม่​เห็น​ไม้​ทั้ง​ท่อน​ที่​อยู่​ใน​ตา​ของ​ท่าน ท่าน​คน​หน้า‍ซื่อ‍ใจ‍คด จง​ชัก​ไม้​ทั้ง​ท่อน​ออก​จาก​ตา​ของ​ท่าน​ก่อน แล้ว​ท่าน​จะ​เห็น​ได้​ถนัด จึง​จะ​เขี่ย‍ผง​ออก‍จาก​ตา​พี่‍น้อง​ของ​ท่าน​ได้

รู้‍จัก​ต้น‍ไม้​ได้​ด้วย​ผล​ของ​มัน

43 “ด้วย‍ว่า​ต้น‍ไม้​ดี​ย่อม​ไม่​เกิด‍ผล​เลว หรือ​ต้น‍ไม้​เลว​ย่อม​ไม่​เกิด‍ผล​ดี

44 เพราะ​ว่า​จะ​รู้‍จัก​ต้น‍ไม้​ทุก​ต้น​ได้​ก็​เพราะ​ผล​ของ​มัน เพราะ​ว่า​เขา​ย่อม​ไม่​เก็บ​ผล​มะเดื่อ​จาก​ต้น‍ไม้​มี​หนาม หรือ​ย่อม​ไม่​เก็บ​ผล‍องุ่น​จาก​ต้น​ระกำ

45 คน‍ดี​ก็​ย่อม​เอา​ของ​ดี​ออก‍จาก​คลัง​ดี​แห่ง​ใจ​ของ​ตน และ​คน‍ชั่ว​ก็​ย่อม​เอา​ของ​ชั่ว​จาก​คลัง​ชั่ว​แห่ง​ใจ​ของ​ตน ด้วย​ใจ​เต็ม​ด้วย​อะไร​ปาก​ก็​พูด​ออก‍มา​อย่าง​นั้น

ราก‍ฐาน​สอง​ชนิด

46 “เหตุ​ไฉน​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จึง​เรียก​เรา​ว่า ‘พระ‍องค์​เจ้า‍ข้า พระ‍องค์​เจ้า‍ข้า’ แต่​ไม่​กระ‌ทำ​ตาม​ที่​เรา​บอก​นั้น

47 ทุก‍คน​ที่​มา​หา​เรา​และ​ฟัง​คำ​ของ​เรา และ​กระ‌ทำ​ตาม​คำ​นั้น เรา​จะ​แจ้ง​ให้​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​รู้​ว่า เขา​เปรียบ​เหมือน​ผู้‍ใด

48 เขา​เปรียบ​เหมือน​คน‍หนึ่ง​ที่​สร้าง​ตึก เขา​ขุด​ลึก​ลง​ไป​แล้ว​ตั้ง​ราก​บน​ศิลา และ​เมื่อ​น้ำ​มา​ท่วม กระ‌แส‍น้ำ​ไหล​เชี่ยว​กระ‌ทบ​กระ‌ทั่ง แต่​ทำ​ให้​หวั่น‍ไหว​ไม่​ได้ เพราะ​ได้​สร้าง​ไว้​มั่น‍คง

49 ส่วน​คน​ที่​ได้​ยิน​และ​มิ​ได้​กระ‌ทำ​ตาม เปรียบ​เหมือน​คน‍หนึ่ง​ที่​สร้าง​ตึก​บน​ดิน​ไม่​ก่อ‍ราก เมื่อ​กระ‌แส​น้ำ​ไหล​เชี่ยว​กระ‌ทบ​กระ‌ทั่ง​ตึก​นั้น ตึก​นั้น​ก็​พัง‍ทลาย​ลง​ทันที และ​ความ​พินาศ​ของ​ตึก​นั้น​ก็​ใหญ่​ยิ่ง​นัก”

บท

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24