เอเสเธอร์ 1 THSV11

กษัตริย์​อา‌หสุ‌เอ‌รัส​ทรง​ถอด​พระ‍ราชินี​วัช‌ที​ออก​จาก​ตำ‌แหน่ง

1 อยู่​มา​ใน​รัช‌สมัย​ของ​อา‌หสุ‌เอ‌รัส คือ​อา‌หสุ‌เอ‌รัส​ผู้​ทรง​ครอบ‍ครอง 127 มณฑล ตั้ง‍แต่​อินเดีย​ถึง​คูช

2 ใน​เวลา​นั้น เมื่อ​กษัตริย์​อา‌หสุ‌เอ‌รัส​ประ‌ทับ​บน​ราช‌บัล‌ลังก์​ใน​สุ‌สา‍เมือง‍ป้อม

3 ใน​ปี​ที่​สาม​แห่ง​รัช‌กาล​ของ​พระ‍องค์ พระ‍องค์​ประ‌ทาน​การ​เลี้ยง​แก่​เจ้า‍นาย​และ​ข้า‍ราช‌การ​ทั้ง‍สิ้น​ของ​พระ‍องค์ นาย‍ทัพ​นาย‍กอง​แห่ง​เปอร์‌เซีย​และ​มี‌เดีย ขุน‍นาง​และ​ผู้‍ว่า‍ราช‌การ‍มณฑล​ต่างๆ เฝ้า​อยู่​เฉพาะ‍พระ‍พักตร์​พระ‍องค์

4 ใน​ขณะ‍ที่​พระ‍องค์​ทรง​แสดง​ราช‌สมบัติ​อัน​รุ่ง‍เรือง​ของ​พระ‍องค์ ทั้ง​ความ​โอ่อ่า‍ตระ‌การ​อัน​รุ่ง‍โรจน์​ของ​พระ‍องค์​อยู่​หลาย​วัน คือ​ถึง 180 วัน

5 เมื่อ​วัน​เหล่า‍นี้​สิ้น‍สุด​ลง​แล้ว กษัตริย์​ก็​ประ‌ทาน​การ​เลี้ยง​แก่​ประ‌ชา‍ชน​ทุก​คน ทั้ง​ผู้‍ใหญ่​ผู้‍น้อย​ที่​อยู่​ใน​สุ‌สา‍เมือง‍ป้อม เป็น​เวลา​เจ็ด​วัน​ใน​ลาน​อุทยาน​แห่ง​ราช‌สำนัก

6 มี​ผ้า‍ม่าน​ทำ​ด้วย​ผ้า‍ฝ้าย​สี‍ขาว​และ​สี‍ฟ้า โยง​ด้วย​เชือก‍ป่าน​สี‍ม่วง​ที่​คล้อง​เข้า​กับ​ห่วง​เงิน​บน​เสา​หิน‍อ่อน อีก‍ทั้ง​มี​เตียง​ทำ​ด้วย​ทอง‍คำ​และ​เงิน​บน​พื้น‍ลาด​ปูน​ฝัง​หิน‍แดง หิน‍อ่อน มุก‌ดา​และ​หิน​สี​ต่างๆ

7 เครื่อง‍ดื่ม​ก็​ใส่​ถ้วย​ทอง‍คำ​หลาย​แบบ​ส่ง​ให้​ดื่ม และ​เหล้า‍องุ่น​ของ​ราช‌สำนัก​ก็​มี​เหลือ‍เฟือ​ตาม​พระ‍ทัย​กว้าง‍ขวาง​ของ​กษัตริย์

8 การ​ดื่ม​ก็​ทำ​กัน​ตาม​พระ‍บัญชา​โดย​ไม่‍มี​การ​ยับ‍ยั้ง เพราะ​กษัตริย์​มี​รับ‍สั่ง​ไป​ยัง​ข้า​ราช‌สำนัก​ทุก​คน​ว่า ให้​ทำ​ตาม​ความ​พอ‍ใจ​ของ​แต่‍ละ‍คน

9 ส่วน​พระ‍ราชินี​วัช‌ที​ก็​ประ‌ทาน​การ​เลี้ยง​แก่​สตรี ที่​ราช‌สำนัก​ของ​กษัตริย์​อา‌หสุ‌เอ‌รัส​ด้วย

10 ใน​วัน‍ที่​เจ็ด เมื่อ​พระ‍ทัย​ของ​กษัตริย์​รื่น‍เริง​ด้วย​เหล้า‍องุ่น พระ‍องค์​ทรง​บัญชา​เม‌หุ‌มาน บิส‌ธา ฮาร‌โบ‌นา บิก‌ธา อา‌บัก‌ธา เศ‌ธาร์​และ​คาร‌คาส ขันที​ทั้ง​เจ็ด​ผู้​ปรน‌นิ‌บัติ​กษัตริย์​อา‌หสุ‌เอ‌รัส

11 ให้​ไป​ทูล​เชิญ​พระ‍ราชินี​วัช‌ที​ทรง​มงกุฎ​เสด็จ​เข้า‍เฝ้า​กษัตริย์ เพื่อ​จะ​ให้​ประ‌ชา‍ชน​และ​เจ้า‍นาย​ได้​ชม​พระ‍สิริ‍โฉม เพราะ​พระ‍นาง​ทรง​งาม​ยิ่ง‍นัก

12 แต่​พระ‍นาง​วัช‌ที​ทรง​ปฏิ‌เสธ​ไม่​มา​ตาม​พระ‍บัญชา​ของ​กษัตริย์​ที่​รับ‍สั่ง​ไป​กับ​ขันที เมื่อ​เป็น​เช่น‍นี้​กษัตริย์​ก็​ทรง​เดือด‍ดาล และ​พระ‍พิโรธ​ของ​พระ‍องค์​ก็​ระอุ​อยู่​ภาย‍ใน

13 แล้ว​กษัตริย์​จึง​ตรัส​หารือ​กับ​พวก​นัก‍ปราชญ์ ผู้​ซึ่ง​รู้​ระเบียบ​แบบ​แผน (เพราะ​นี่​เป็น​ธรรม‌เนียม​ปฏิ‌บัติ​ของ​กษัตริย์​ต่อ​บรร‌ดา​ผู้​เชี่ยว‍ชาญ​เรื่อง​กฎ‍หมาย​และ​การ​พิพาก‌ษา

14 อัน​ได้‍แก่​ผู้​ที่​อยู่​ใกล้‍ชิด​พระ‍องค์​คือ คาร‌เช‌นา เช‌ธาร์ อัด‌มา‌ธา ทาร‌ชิช เม‌เรส มาร‌เส‌นา และ​เม‌มู‌คาน เจ้า‍นาย​ทั้ง​เจ็ด​แห่ง​เปอร์‌เซีย​และ​มี‌เดีย ผู้​สามารถ​เข้า‍เฝ้า​กษัตริย์ และ​มี​ตำ‌แหน่ง​สูง​ใน​ราช‌อาณา‌จักร)

15 ว่า “จะ​ต้อง​ทำ​อย่าง‍ไร​ต่อ​พระ‍ราชินี​วัช‌ที​ตาม​กฎ‍หมาย? เพราะ​พระ‍นาง​ขัด‍ขืน​พระ‍บัญชา​ของ​กษัตริย์​อา‌หสุ‌เอ‌รัส ซึ่ง​รับ‍สั่ง​ไป​กับ​ขันที”

16 เม‌มู‌คาน​จึง​ทูล​ต่อ‍พระ‍พักตร์​กษัตริย์​และ​ต่อ‍หน้า​เจ้า‍นาย​ทั้ง‍หลาย​ว่า “พระ‍ราชินี​ทรง​ทำ​ผิด​ไม่‍ใช่​ต่อ​กษัตริย์​เท่า‍นั้น แต่​ต่อ​เจ้า‍นาย​ทั้ง‍หมด​และ​ต่อ​ประ‌ชา‍ชน​ทุก​คน​ผู้​อยู่​ใน​มณฑล​ทั้ง‍สิ้น​ของ​กษัตริย์​อา‌หสุ‌เอ‌รัส​ด้วย

17 เพราะ​การ​กระ‌ทำ​ของ​พระ‍ราชินี​จะ​รู้​ไป​ถึง​สตรี​ทุก​คน ทำ​ให้​พวก​นาง​ดู‍หมิ่น​สามี​ของ​ตน‍เอง โดย​พูด​ว่า ‘กษัตริย์​อา‌หสุ‌เอ‌รัส​มี​พระ‍บัญชา​ให้​นำ​พระ‍ราชินี​วัช‌ที​มา​เฝ้า​เฉพาะ‍พระ‍พักตร์ แต่​พระ‍นาง​ไม่​เสด็จ​มา’

18 ใน​วัน‍นี้ นาย​ผู้‍หญิง​แห่ง​เปอร์‌เซีย​และ​มี‌เดีย​ซึ่ง​ได้‍ยิน​เรื่อง​การ​กระ‌ทำ​ของ​พระ‍ราชินี ก็​จะ​เล่า​ให้​เจ้า‍นาย​ทั้ง‍ปวง​ของ​กษัตริย์​ฟัง และ​จะ​เกิด​การ​ดู‍หมิ่น​และ​ความ​โกรธ​มาก‍มาย

19 ฉะนั้น ถ้า​เป็น​ที่​พอ‍พระ‍ทัย​กษัตริย์ ขอ​ให้​มี​พระ‍ราช‌โอง‌การ​จาก​พระ‍องค์ และ​ให้​บัน‌ทึก​ไว้​ใน​กฎ‍หมาย​ของ​คน​เปอร์‌เซีย​และ​คน​มี‌เดีย อย่าง​ที่​จะ​เพิก‍ถอน​ไม่‍ได้​ว่า พระ‍นาง​วัช‌ที​จะ​เข้า‍เฝ้า​กษัตริย์​อา‌หสุ‌เอ‌รัส​อีก​ไม่‍ได้ และ​ขอ​ให้​กษัตริย์​ประ‌ทาน​ตำ‌แหน่ง​ราชินี​แก่​ผู้‍อื่น​ที่​ดี‍กว่า​พระ‍นาง

20 ดัง‍นั้น​เมื่อ​กษัตริย์​ทรง​ประ‌กาศ​กฤษ‌ฎีกา​ทั่ว​พระ‍ราช‌อาณา‌จักร​อัน​กว้าง​ใหญ่​ของ​พระ‍องค์ สตรี​ทั้ง‍ปวง​จะ​ต้อง​ให้​เกียรติ​สามี​ของ​ตน ไม่​ว่า​เขา​จะ​มี​ฐานะ​สูง​หรือ​ต่ำ”

21 คำ‍ทูล​นี้​เป็น​ที่​พอ‍พระ‍ทัย​กษัตริย์​และ​ถูก​ใจ​เจ้า‍นาย กษัตริย์​จึง​ทรง​ทำ​ตาม​ที่​เม‌มู‌คาน​ทูล​เสนอ

22 พระ‍องค์​ทรง​ส่ง​พระ‍ราช‌สาร​ไป​ทั่ว​ทุก​มณฑล​ของ​พระ‍องค์ ถึง​แต่​ละ​มณฑล​ตาม​อักษร​ของ​มณฑล​นั้น และ​ถึง​ประ‌ชา‍ชน​ทุก​ชาติ​ตาม​ภาษา​ของ​เขา ให้​ชาย​ทุก​คน​เป็น​เจ้า​เป็น​นาย​ใน​บ้าน​ของ​ตน​และ​พูด​ตาม​ภาษา​ชน‍ชาติ​ของ​ตน

บท

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10