มัทธิว 22 THSV11

อุปมา​เรื่อง​งาน​เลี้ยง​ใน​พิธี​อภิเษก‍สมรส

1 พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​เขา‍ทั้ง‍หลาย​เป็น​อุปมา​อีก​ว่า

2 “แผ่น‍ดิน​สวรรค์ เปรียบ​เสมือน​กษัตริย์​องค์​หนึ่ง ทรง​จัด‍งาน​อภิเษก‍สมรส​ให้​กับ​โอรส​ของ​พระ‍องค์

3 แล้ว​ทรง​ใช้​พวก​บ่าว​ไป​เชิญ​คน‍ทั้ง‍หลาย​ที่​ได้​รับ​เชิญ​ให้​มา​งาน​อภิเษก‍สมรส​นี้ แต่​พวก‍เขา​ไม่​อยาก​จะ​มา

4 พระ‍องค์​จึง​ทรง​ใช้​บ่าว​อื่นๆ ไป​อีก มี​รับ‍สั่ง​ให้​บอก​ผู้​รับ​เชิญ​เหล่า‍นั้น​ว่า ‘นี่‍แน่ะ เรา​เตรียม​งาน​เลี้ยง​ไว้​แล้ว ทั้ง​วัว​และ​ลูก​วัว​อ้วน​ของ​เรา​ก็​ฆ่า​ไว้​แล้ว ทุก‍อย่าง​ก็​เตรียม‍พร้อม​แล้ว เชิญ​มา​ใน​งาน​เลี้ยง​อภิเษก‍สมรส​นี้​เถิด’

5 แต่​เขา‍ทั้ง‍หลาย​เพิก‍เฉย​และ​เดิน​จาก​ไป บาง‍คน​ไป​ไร่‍นา​ของ​ตน บาง‍คน​ก็​ไป​ค้า‍ขาย

6 พวก​ที่​เหลือ​ก็​จับ​บ่าว​มา​ทำ​การ​อัปยศ​ต่างๆ แล้ว​ฆ่า​เสีย

7 กษัตริย์​องค์​นั้น​ก็​กริ้ว จึง​มี​รับ‍สั่ง​ให้​กอง‍ทหาร​ไป​ฆ่า​ฆาต‌กร​เหล่า‍นั้น และ​เผา​เมือง​ของ​พวก‍เขา

8 แล้ว​พระ‍องค์​มี​รับ‍สั่ง​กับ​พวก​บ่าว​ว่า ‘งาน​อภิเษก‍สมรส​เตรียม‍พร้อม​แล้ว แต่​พวก​ที่​ได้​รับ​เชิญ​นั้น​ไม่​คู่‍ควร

9 เพราะ‍ฉะนั้น​จง​ออก​ไป​ตาม‍ถนน​สำคัญๆ ต่างๆ เชิญ​ทุก​คน​ที่​พวก‍เจ้า​พบ​มา​ร่วม​งาน​อภิเษก‍สมรส​นี้’

10 บ่าว​จึง​ออก​ไป​ตาม‍ถนน​ต่างๆ และ​รวบ‍รวม​ทุก​คน​ที่​พบ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​คน​ดี​หรือ​คน​เลว​จน​ห้อง‍โถง​งาน​อภิเษก‍สมรส​นั้น​เต็ม‍ไป‍ด้วย​แขก

11 “แต่​เมื่อ​กษัตริย์​องค์​นั้น​เสด็จ​ไป​ทอด‍พระ‍เนตร​แขก​ทั้ง‍หลาย ก็​ทอด‍พระ‍เนตร​เห็น​คน​หนึ่ง​ไม่‍ได้​สวม​เสื้อ​สำหรับ​งาน​อภิเษก‍สมรส

12 จึง​ตรัส​ถาม​ว่า ‘เพื่อน​เอ๋ย ทำไม​ท่าน​มา​ที่‍นี่​โดย​ไม่​สวม​เสื้อ​สำหรับ​งาน​อภิเษก‍สมรส?’ คน​นั้น​ก็​นิ่ง‍อั้น​อยู่​พูด​ไม่​ออก

13 กษัตริย์​จึง​มี​รับ‍สั่ง​กับ​พวก​คน‍รับ‍ใช้​ว่า ‘จง​มัด​มือ​มัด​เท้า​คน​นี้​เอา​ไป​โยน​ทิ้ง​บริ‌เวณ​ที่​มืด​ข้าง‍นอก ซึ่ง​เป็น​ที่​มี​การ​ร้อง‍ไห้​ขบ‍เขี้ยว‍เคี้ยว‍ฟัน’

14 เพราะ​ว่า​คน​ที่​ได้​รับ​เชิญ​ก็​มี​มาก แต่​คน​ที่​ได้​รับ​การ​ทรง​เลือก​ก็​มี​น้อย”

การ​ส่ง‍ส่วย​ให้​กับ​ซี‌ซาร์

15 ขณะ​นั้น​พวก​ฟาริสี​ก็​ไป​และ​ปรึก‌ษา​กัน​หา​ทาง​ทำ​ให้​พระ‍องค์​ทรง​ติด​กับ‍ดัก​ด้วย​คำ​พูด

16 จึง​ใช้​บรร‌ดา​ศิษย์​ของ​ตน​กับ​พวก​เฮ‌โรด​ไป​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ท่าน​อา‌จารย์ เรา​ทราบ​ว่า​ท่าน​เป็น​คน​ซื่อ‍สัตย์ สั่ง‍สอน​ทาง​ของ​พระ‍เจ้า​ตาม​ความ​จริง​โดย​ไม่‍ได้​เอา‍ใจ​ใคร เพราะ​ท่าน​ไม่‍ได้​เห็น​แก่​หน้า​ใคร

17 เพราะ‍ฉะนั้น​ขอ​โปรด​ให้​เรา​ทราบ​ว่า​ท่าน​คิด​อย่าง‍ไร? การ​ส่ง‍ส่วย​ให้​แก่​ซี‌ซาร์​นั้น​ควร​หรือ​ไม่?”

18 พระ‍เยซู​ทรง​ทราบ​เจตนา​ร้าย​ของ​พวก‍เขา​จึง​ตรัส​ว่า “คน​หน้า‍ซื่อ‍ใจ‍คด พวก‍ท่าน​มา​ทด‍ลอง​เรา​ทำไม?

19 จง​เอา​เงิน​ที่​จะ​เสีย​ส่วย​นั้น​มา​ให้​เรา​ดู” เขา​จึง​เอา​เด‌นา‌ริ‌อัน​เหรียญ​หนึ่ง​ถวาย​พระ‍องค์

20 พระ‍องค์​ตรัส​ถาม​ว่า “รูป​และ​คำ​จา‌รึก​นี้​เป็น​ของ​ใคร?”

21 พวก‍เขา​ทูล​ว่า “ของ​ซี‌ซาร์” แล้ว​พระ‍องค์​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “เพราะ‍ฉะนั้น ของ​ของ​ซี‌ซาร์​จง​ถวาย​แด่​ซี‌ซาร์ และ​ของ​ของ​พระ‍เจ้า​จง​ถวาย​แด่​พระ‍เจ้า”

22 เมื่อ​ได้​ฟัง​แล้ว​พวก‍เขา​ก็​ประ‌หลาด‍ใจ จึง​ละ​พระ‍องค์​ไว้​และ​กลับ‍ไป

คำ​ถาม​เรื่อง​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย

23 ใน​วัน‍นั้น มี​พวก​สะ‌ดู‌สี​มา‍หา​พระ‍องค์ พวก‍นี้​เป็น​ผู้‍สอน​ว่า​ไม่‍มี​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย

24 เขา​จึง​ทูล​ถาม​พระ‍องค์​ว่า “ท่าน​อา‌จารย์ โม‌เสส​สั่ง​ว่า ‘ถ้า​ใคร​ตาย​ใน​ขณะ‍ที่​ยัง​ไม่‍มี​บุตร ก็​ให้​น้อง‍ชาย​แต่ง‍งาน​กับ​หญิง‍ม่าย​นั้น​และ​มี​บุตร​สืบ‍ตระ‌กูล​ให้​พี่‍ชาย’ 

25 เรา​มี​พี่‍น้อง​ผู้‍ชาย​เจ็ด​คน พี่​คน​โต​มี​ภรรยา​แล้ว​ก็​ตาย เมื่อ​ยัง​ไม่‍มี​บุตร​ก็​ละ​ภรรยา​ไว้​ให้​กับ​น้อง‍ชาย

26 คน​ที่​สอง คน​ที่​สาม​ก็​เป็น​แบบ​เดียว‍กัน จน‍ถึง​คน​ที่​เจ็ด

27 ใน​ที่​สุด​หญิง​คน​นั้น​ก็​ตาย​ด้วย

28 เพราะ‍ฉะนั้น​ใน​วัน‍ที่​เป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย หญิง​คน​นั้น​จะ​เป็น​ภรรยา​ของ​ใคร​ใน​เจ็ด​คน​นั้น? เพราะ​พวก‍เขา​ได้​นาง​มา​เป็น​ภรรยา​แล้ว​ทุก​คน”

29 พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “ท่าน‍ทั้ง‍หลาย​ผิด​แล้ว เพราะ​ท่าน​ไม่​รู้​พระ‍คัมภีร์​หรือ​ฤทธิ์‍เดช​ของ​พระ‍เจ้า

30 เมื่อ​มนุษย์​เป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย​นั้น จะ​ไม่‍มี​การ​สมรส​หรือ​ยก​ให้​เป็น​สามี​ภรรยา​กัน​อีก แต่​จะ​เป็น​เหมือน​บรร‌ดา​ทูต​ใน​ฟ้า‍สวรรค์

31 เกี่ยว‍กับ​เรื่อง​ที่​คน​ตาย​จะ​เป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย​นั้น พวก‍ท่าน​ยัง​ไม่‍ได้​อ่าน​สิ่ง​ที่​พระ‍เจ้า​ตรัส​ไว้​กับ​ท่าน​หรือ ว่า

32 ‘เรา​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​อับ‌รา‌ฮัม พระ‍เจ้า​ของ​อิส‌อัค และ​พระ‍เจ้า​ของ​ยา‌โคบ’  พระ‍องค์​ไม่‍ได้​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​คน​ตาย แต่​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​คน​เป็น”

33 เมื่อ​ฝูง‍ชน​ได้‍ยิน​ก็​อัศ‌จรรย์​ใจ​ด้วย​คำ​สั่ง‍สอน​ของ​พระ‍องค์

พระ‍บัญญัติ​ข้อ​ที่​สำคัญ​ที่​สุด

34 เมื่อ​พวก​ฟาริสี​ได้‍ยิน​ว่า​พระ‍องค์​ทรง​ทำ​ให้​พวก​สะ‌ดู‌สี​นิ่ง‍อั้น​อยู่ จึง​ประ‌ชุม​กัน

35 มี​ผู้‍เชี่ยว‍ชาญ‍บัญญัติ​คน​หนึ่ง​ใน​พวก‍เขา​มา​ทด‍สอบ​พระ‍องค์​ว่า

36 “ท่าน​อา‌จารย์ ใน​ธรรม‍บัญญัติ​นั้น พระ‍บัญญัติ​ข้อ​ไหน​สำคัญ​ที่‍สุด?”

37 พระ‍เยซู​ทรง​ตอบ​เขา​ว่า “ ‘จง​รัก​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ของ​ท่าน​ด้วย​สุด​ใจ​ของ​ท่าน​ด้วย​สุด​จิต​ของ​ท่าน’ และ​ด้วย​สุด​ความ​คิด​ของ​ท่าน

38 นั่น​แหละ​เป็น​พระ‍บัญญัติ​ข้อ​สำคัญ​อัน​ดับ​แรก

39 ข้อ​ที่​สอง​ก็​เหมือน‍กัน คือ ‘จง​รัก​เพื่อน‍บ้าน​เหมือน​รัก​ตน‍เอง’

40 ธรรม‍บัญญัติ​และ​คำ​ของ​ผู้‍เผย‍พระ‍วจนะ​ทั้ง‍หมด ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​พระ‍บัญญัติ​สอง​ข้อ​นี้”

คำ‍ถาม​เรื่อง​เชื้อ‍สาย​ของ​ดาวิด

41 เมื่อ​พวก​ฟาริสี​ยัง​ประ‌ชุม​อยู่​ที่​นั่น พระ‍เยซู​ทรง​ถาม​ว่า

42 “ท่าน‍ทั้ง‍หลาย​คิด​อย่าง‍ไร​เกี่ยว‍กับ​เรื่อง​พระ‍คริสต์? พระ‍องค์​ทรง​เป็น​เชื้อ‍สาย​ของ​ใคร?” พวก‍เขา​ตอบ​ว่า “เป็น​เชื้อ‍สาย​ของ​ดาวิด”

43 พระ‍องค์​ตรัส​ถาม​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​ทำไม​ดาวิด​จึง​ทรง​เรียก​พระ‍องค์​ว่า องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​โดย​เดช​พระ‍วิญ‌ญาณ และ​ทรง​กล่าว​ว่า

44 ‘พระ‍เจ้า ตรัส​กับ​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ของ​ข้าพ‌เจ้า​ว่า “จง​นั่ง​ที่​ขวา​มือ​ของ​เรา จน‍กว่า​เรา​จะ​ปราบ​ศัตรู​ของ​ท่าน​ให้​อยู่​ใต้​เท้า​ของ​ท่าน”  ’

45 ฉะนั้น​ถ้า​ดาวิด​ทรง​เรียก​ท่าน​ว่า องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า ท่าน​จะ​เป็น​เชื้อ‍สาย​ของ​ดาวิด​ได้​อย่าง‍ไร?”

46 ไม่‍มี​ใคร​สามารถ​ตอบ​พระ‍องค์​สัก​คำ​หนึ่ง ตั้ง‍แต่​วัน‍นั้น​มา​ไม่‍มี​ใคร​กล้า​ซัก‍ถาม​พระ‍องค์​อีก

บท

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28