เย‌เร‌มีย์ 31:29-35 TH1971

29 ใน​สมัย​นั้น เขา​จะ​ไม่​กล่าว​ต่อ‍ไป​อีก​ว่า‘บิดา​รับ‍ประ‌ทาน​องุ่น‍เปรี้ยว​และ​บุตร​ก็​เข็ด‍ฟัน’

30 แต่​ทุก​คน​จะ​ต้อง​ตาย​เพราะ​บาป​ของ​ตน‍เอง มนุษย์​ทุก​คน​ที่​รับ‍ประ‌ทาน​องุ่น‍เปรี้ยว ก็​จะ​เข็ด‍ฟัน

31 “พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า ดู‍เถิด วัน​เวลา​จะ​มา​ถึง ซึ่ง​เรา​จะ​ทำ​พันธ‌สัญ‌ญา ใหม่กับ​ประ‌ชา​อิส‌รา‌เอล และ​ประ‌ชา​ยู‌ดาห์

32 ไม่​เหมือน​กับ​พันธ‌สัญ‌ญา​ซึ่ง​เรา​ได้​กระ‌ทำ​กับ บรรพ‌บุรุษ​ของ​เขา​ทั้ง‍หลาย เมื่อ​เรา​จูง​มือ​เขา​เพื่อ​นำ​เขา​ออก​มา​จาก​แผ่น‍ดิน​อียิปต์ เป็น​พันธ‌สัญ‌ญา​ของ​เรา​ซึ่ง​เขา​ผิด ถึง​แม้‍ว่า​เรา​ได้​เป็น​สามี​ของ​เขา พระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้‍แหละ

33 แต่​นี่​จะ​เป็น​พันธ‌สัญ‌ญา​ซึ่ง​เรา​จะ​กระ‌ทำ​กับ ประ‌ชา​อิส‌รา‌เอล​ภาย‍หลัง​สมัย​นั้น พระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้​แหละ เรา​จะ​บรรจุ​พระ‍ธรรม​ไว้​ใน​เขา​ทั้ง‍หลาย และ​เรา​จะ​จา‌รึก​มัน​ไว้​บน​ดวง‍ใจ​ของ​เขา​ทั้ง‍หลาย และ​เรา​จะ​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​เขา และ​เขา​จะ​เป็น​ประ‌ชา‍กร​ของ​เรา

34 และ​ทุก​คน​จะ​ไม่​สอน​เพื่อน‍บ้าน​ของ​ตน และ​พี่‍น้อง​ของ​ตน​แต่​ละ​คน​อีก​ว่า ‘จง​รู้‍จัก​พระ‍เจ้า’ เพราะ​เขา​ทั้ง‍หลาย​จะ​รู้‍จัก​เรา​หมด​ตั้ง‍แต่​คน เล็ก‍น้อย​ที่‍สุด​ถึง​คน​ใหญ่​โต​ที่‍สุด พระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้​แหละ เพราะ​เรา​จะ​ให้​อภัย​บาป‍ชั่ว​ของ​เขา และ​จะ​ไม่​จด‍จำ​บาป​ของ​เขา ทั้ง‍หลาย​อีก​ต่อ‍ไป”

35 พระ‍เจ้า​ผู้​ทรง​ให้​ดวง​อา‌ทิตย์​เป็น​สว่าง​กลาง‍วันและ​ทรง​ให้​ระเบียบ​ตาย​ตัว​ของ​ดวง‍จันทร์ และ​ทรง​ให้​บรร‌ดา​ดวง‍ดาว​เป็น​สว่าง​กลาง‍คืนผู้​ทรง​กวน​ทะเล​ให้​คลื่น​กำ‌เริบพระ‍นาม​ของ​พระ‍องค์ คือ​พระ‍เจ้า​จอม​โย‌ธา ตรัส​ดัง‍นี้​ว่า