เย‌เร‌มีย์ 23 TH1971

พวก​ที่​เหลือ​จะ​กลับ

1 พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “วิบัติ​จง​มี​แก่​ผู้​เลี้ยง​แกะ ผู้​ทำ‌ลาย​และ​กระ‌จาย​แกะ​ของ​ลาน‍หญ้า​ของ​เรา”

2 เพราะ​ฉะนั้น พระ‍เย‌โฮ‌วาห์​พระ‍เจ้า​แห่ง​อิส‌รา‌เอล ตรัส​กับ​ผู้​เลี้ยง​แกะ​ผู้​ดูแล​ประ‌ชา‍กร​ของ​เรา​ดัง‍นี้​ว่า “เจ้า​ทั้ง‍หลาย​ได้​กระ‌จาย​ฝูง‍แกะ​ของ​เรา​และ​ได้ ขับ‍ไล่​มัน​ไป​เสีย และ​เจ้า​มิ‍ได้​เอา​ใจ​ใส่​มัน พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า ดู‍เถิด เรา​จะ​เอา​ใจ​ใส่​เจ้า เพราะ​การ​กระ‌ทำ​ที่​ชั่ว​ของ​เจ้า

3 แล้ว​เรา​จะ​รวบ‍รวม​ฝูง‍แกะ​ของ เรา​ที่​เหลือ​อยู่​ออก​จาก​ประ‌เทศ​ทั้ง‍ปวง ซึ่ง​เรา​ได้​ขับ‍ไล่​ให้​เขา​ไป​อยู่​นั้น และ​จะ​นำ​เขา​กลับ​มา​ยัง​คอก​ของ​เขา เขา​จะ​มี​ลูก‍ดก​และ​ทวี​มาก‍ขึ้น

4 พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า เรา​จะ​ตั้ง​ผู้​เลี้ยง​แกะ​ไว้​เหนือ​เขา ผู้​จะ​เลี้ยง‍ดู​เขา​และ​เขา​ทั้ง‍หลาย​จะ​ไม่​กลัว​อีก​เลย หรือ​ครั่น‍คร้าม จะ​ไม่​ขาด​ไป​เลย

5 “พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า ดู‍เถิด วัน​เวลา​จะ​มา​ถึง เมื่อ​เรา​จะ​เพาะ​อัง‌กูร​ชอบ‍ธรรม​ให้​ดา‌วิด และ​ท่าน​จะ​ทรง​ครอบ‍ครอง​เป็น​กษัตริย์​และ กระ‌ทำ​กิจ​อย่าง​เฉลียว‍ฉลาด และ​จะ​ทรง​ประ‌ทาน​ความ​ยุติ‍ธรรม​และ ความ​ชอบ‍ธรรม​ใน​แผ่น‍ดิน​นั้น

6 ใน​สมัย​ของ​ท่าน​ยู‌ดาห์​จะ​รอด​ได้ และ​อิส‌รา‌เอล​จะ​อา‌ศัย​อยู่​อย่าง​มั่น‍คง และ​นี่​จะ​เป็น​นาม​ซึ่ง​เรา​จะ​เรียก​ท่าน คือ ‘พระ‍เจ้า​เป็นความ​ชอบ‍ธรรม17ของ​เรา’

7 เพราะ​ฉะนั้น พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า ดู‍เถิด วัน​เวลา​จะ​มา​ถึง เมื่อ​คน​ของ​เขา​ไม่​กล่าว​อีก​ต่อ‍ไป​ว่า ‘พระ‍เจ้า​ทรง​พระ‍ชนม์​อยู่​ตราบ‍ใด ผู้​ซึ่ง​ได้​นำ​ประ‌ชา‍ชน​อิส‌รา‌เอล​ออก​มา​จาก​แผ่น‍ดิน​อียิปต์’

8 แต่​จะ​ว่า ‘พระ‍เจ้า​ทรง​พระ‍ชนม์​อยู่​ตราบ‍ใด ผู้​ซึ่ง​ได้​นำ​และ​พา​เชื้อ‍สาย​แห่ง​ประ‌ชา​อิส‌รา‌เอล​ออก มา​จาก​แดน​เหนือ และ​ออก​มา​จาก​ประ‌เทศ​ที่​พระ‍องค์​ทรง​ขับ‍ไล่​ให้​ไป​อยู่​นั้น’ แล้ว​เขา​ทั้ง‍หลาย​จะ​ได้​อา‌ศัย​อยู่​ใน​แผ่น‍ดิน​ของ​เขา​เอง”

ประ‌ณาม​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​ที่​มุสา

9 เกี่ยว​กับ​เรื่อง​บรร‌ดา​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​มี​ว่าใจ​ของ​ข้า​เป็น​ทุกข์​อยู่​ภาย‍ใน​ข้าและ​กระ‌ดูก​ทั้ง‍สิ้น​ของ​ข้า​ก็​สั่นข้า​เป็น​เหมือน​คน‍เมาข้า​เป็น​เหมือน​คน​หงำ​ด้วย​เหล้า​องุ่นเนื่อง​ด้วย​พระ‍เจ้าและ​เนื่อง​ด้วย​พระ‍วจนะ​บริ‌สุทธิ์​ของ​พระ‍องค์

10 เพราะ​ว่า แผ่น‍ดิน​นั้น​เต็ม​ไป​ด้วย​การ​ล่วง​ประ‌เวณีด้วย​เหตุ​คำ‍สาป‍แช่ง​แผ่น‍ดิน​นั้น​ก็​ไว้‍ทุกข์และ​ลาน‍หญ้า​ใน​ถิ่น​ทุร‌กัน‌ดาร​ก็​แห้ง​ไปวิถี​ของ​เขา​ทั้ง‍หลาย​ก็​ชั่ว‍ช้าและ​อำ‌นาจ​ของ​เขา​ทั้ง‍หลาย​ก็​ไม่​เป็น​ธรรม

11 พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า“ทั้ง​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​และ​ปุโร‌หิต​ก็​อธรรมถึง​แม้‍ว่า​ใน​นิเวศ​ของ​เรา​เรา​ก็​ได้​เห็น​ความ​ชั่ว​ของ​เขา

12 เพราะ​ฉะนั้น หน‍ทาง​ของ​เขา​ทั้ง‍หลายจะ​เป็น​เหมือน​ทาง‍ลื่น​ใน​ความ​มืด​แก่​เขาเขา​จะ​ถูก​ขับ‍ไล่​เข้า​ไป​และ​ล้ม​ลง​ใน​นั้นเพราะ​เรา​จะ​นำ​เหตุ‍ร้าย​มา​เหนือ​เขาใน​ปี​แห่ง​การ​ลง‍โทษ​เขาพระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้​แหละ

13 ใน​บรร‌ดา​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​แห่ง​สะ‌มา‌เรียเรา​ได้​เห็น​สิ่ง​ที่​ไม่​เหมาะ​อย่าง​ยิ่งเขา​ได้‍เผย​พระ‍วจนะ​ใน​นาม​ของ​พระ‍บา‌อัลและ​ได้​ให้​อิส‌รา‌เอล​ประ‌ชา‍กร​ของ​เรา​หลง​ไป

14 แต่​ใน​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​แห่ง​เย‌รู‌ซา‌เล็มเรา​ได้​เห็น​สิ่ง​อัน​น่า​หวาด‍เสียวเขา​ล่วง‍ประ‌เวณี​และ​ดำ‌เนิน​อยู่​ใน​ความ​มุสาเขา​ทั้ง‍หลาย​หนุน​กำ‌ลัง​มือ​ของ​ผู้​กระ‌ทำ​ความ​ชั่วจึง​ไม่‍มี​ผู้​หนึ่ง​ผู้​ใด​หัน​จาก​ความ​อธรรม​ของ​เขาเขา​ทุก​คน​กลาย​เป็น​เหมือน​โส‌โดมแก่​เราและ​ชาว‍เมือง​นั้น​ก็​เหมือน​เมือง​โก‌โม‌ราห์

15 เพราะ​ฉะนั้น พระ‍เจ้า​จอม‍โย‌ธา​จึง​ตรัส​เกี่ยว‍กับ​เรื่อง​ผู้​เผย พระ‍วจนะ​เหล่า‍นั้น​ว่า“ดู‍เถิด เรา​จะ​เลี้ยง​เขา​ด้วย​บอ‌ระ‌เพ็ดและ​ให้​น้ำ‍ดี‍หมี​เขา​ดื่มเพราะ‍ว่า​ความ​อธรรม​ได้​ออก​ไป​ทั่ว​แผ่น‍ดิน​นี้จาก​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​แห่ง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม”

16 พระ‍เจ้า​จอม‍โย‌ธา ตรัส​ดัง‍นี้​ว่า “อย่า​ฟัง​ถ้อย‍คำ​ของ​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ ผู้​เผย​ให้​ท่าน​ฟัง​กระ‌ทำ​ให้​ท่าน​เต็ม​ด้วย​ความ​หวัง​ลมๆ แล้งๆ เขา​กล่าว​ถึง​นิมิต​แห่ง​ใจ​ของ​เขา​เอง มิ‍ใช่​จาก​พระ‍โอษฐ์​ของ​พระ‍เจ้า

17 เขา​พูด​กับ​คน​ที่​ดู‍หมิ่น​พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍เจ้า​เสมอ​ว่า ‘ท่าน​จะ​สุข‍สบาย’ และ​แก่​ทุก​คน​ที่​ดื้อ​ตาม​ใจ​ของ​ตน​เอง เขา​ทั้ง‍หลาย​กล่าว​ว่า ‘จะ​ไม่‍มี​เหตุ‍ร้าย​มา​เหนือ​เจ้า’ ”

18 เพราะ‍ว่า​ผู้​ใด​เล่า​ที่​ได้​ยืน​อยู่​ใน​พล​พรรค​ของ​พระ‍เจ้าที่​จะ​พิเคราะห์​เห็น​และ​ฟัง​พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍องค์หรือ​ผู้​ใด​ที่​เชื่อ‍ฟัง​พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍องค์​และ​คอย​ฟัง

19 ดู‍เถิด นั่น​พายุ​ของ​พระ‍เจ้าคือ​พระ‍พิโรธ​ได้​ออก​ไป​แล้วเป็น​พายุ​หมุน​เวียนมัน​จะ​ระเบิด​ขึ้น​เหนือ​ศีรษะ​ของ​คน​อธรรม

20 ความ​กริ้ว​ของ​พระ‍เจ้า​จะ​ไม่​หัน​กลับจน​กว่า​พระ‍องค์​จะ​ทรง​กระ‌ทำ​ให้​สำ‌เร็จตาม​พระ‍เจต‌นา​แห่ง​พระ‍หฤทัย​ของ​พระ‍องค์ใน​วัน​หลังๆ เจ้า​ทั้ง‍หลาย​จะ​เข้า‍ใจ​เรื่อง​นี้​แจ่ม‍แจ้ง

21 “เรา​มิ‍ได้​ใช้​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​เหล่า​นั้นแต่​เขา​ทั้ง‍หลาย​ยัง​วิ่ง​ไปเรา​ไม่‍ได้​พูด​กับ​เขา​ทั้ง‍หลายแต่​เขา​ทั้ง‍หลาย​ยัง​เผย​พระ‍วจนะ

22 แต่​ถ้า​เขา​ทั้ง‍หลาย​ได้​ยืน​อยู่​ใน​การ​ประ‌ชุม​ของ​เราแล้ว​เขา​คง‍จะ​ได้​ป่าว‍ร้อง​ถ้อย​คำ​ของ​เรา​ต่อ​ประ‌ชา‍กร​ของ​เราและ​เขา​ทั้ง‍หลาย​คง‍จะ​ได้​ให้​ประ‌ชา​ชน​หัน​กลับ​จาก ทาง‍ชั่ว​ของ​เขา​แล้วและ​หัน‍กลับ​จาก​ความ​ชั่ว‍ช้า​ใน​การ​กระ‌ทำ​ของ​เขา

23 “พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า เรา​เป็น​พระ‍เจ้า​ใกล้​แค่​คืบ มิ‍ใช่​พระ‍เจ้า​ที่​อยู่​ไกล​ด้วย​ดอก​หรือ

24 พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า คน​ใด​จะ​ซ่อน​จาก​เรา​ไป​อยู่​ใน​ที่‍ลับ​เพื่อ​เรา​จะ​มิ‍ได้ เห็น​เขา​ได้​หรือ พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า​เรา​มิ‍ได้​อยู่​เต็ม​ฟ้า​สวรรค์​และ​โลก​ดอก​หรือ

25 เรา​ได้​ยิน​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​ผู้​ซึ่ง​เผย​พระ‍วจนะ​ใน นาม​ของ​เรา​ได้​กล่าว​แล้ว​ว่า ‘ข้าพ‌เจ้า​ฝัน​ไป ข้าพ‌เจ้า​ฝัน​ไป’

26 นาน​สัก​เท่า‍ใด​ที่​คำ‍มุสา​จะ​อยู่​ใน​ใจ ของ​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ ซึ่ง​เผย​เรื่อง​เท็จ​และ​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​ตาม​การ​หลอก‍ลวง แห่ง​จิต‍ใจ​ของ​เขา​เอง

27 ผู้​ซึ่ง​คิด​ว่า​จะ​กระ‌ทำ​ให้​ประ‌ชา‍กร​ของ​เรา​ลืม ชื่อ​ของ​เรา โดย​ความ​ฝัน​ของ​เขา​ทั้ง‍หลาย​ซึ่ง​เขา​เล่า​สู่​กัน​และ​กัน​ฟัง อย่าง​กับ​บรรพ‌บุรุษ​ของ​เขา​ลืม​นาม​ของ​เรา ไป​ติด‍ตาม​พระ‍บา‌อัล

28 จง​ให้​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​ที่​ฝัน​เล่า​ความ​ฝัน แต่​ให้​คน​ที่​มี​ถ้อย‍คำ​ของ​เรา​กล่าว​ถ้อย‍คำ ของ​เรา​อย่าง​สุจริต​พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า ฟาง‍ข้าว​มี​อะไร​บ้าง​ที่​เหมือน​ข้าว​สาลี

29 พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า ถ้อย‍คำ​ของ​เรา​ไม่​เหมือน​ไฟ​หรือ หรือ​เหมือน​ค้อน​ที่​ทุบ​หิน​ให้​แตก​เป็น​ชิ้นๆ

30 พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “เพราะ​ฉะนั้น ดู‍เถิด เรา​ต่อ‍สู้​กับ​บรร‌ดา​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ ผู้​ขโมย​ถ้อย‍คำ​ของ​เรา​จาก​กัน​และ​กัน

31 พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “ดู‍เถิด เรา​ต่อ‍สู้​กับ​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ ผู้​ใช้​ลิ้น​ของ​เขา​กล่าว​ว่า ‘พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า’

32 พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า​ดู‍เถิด เรา​ต่อ‍สู้​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เผย​ความ​ฝัน​เท็จ และ​ผู้​ซึ่ง​บอก​และ​นำ​ประ‌ชา‍กร​ของ​เรา​ให้​หลง​ไป โดย​คำ‍มุสา​และ​คำ​โอ้‍อวด​ของ​เขา เมื่อ​เรา​มิ‍ได้​ใช้​เขา​หรือ​สั่ง​เขา เพราะ​ฉะนั้น เขา​จึง​ไม่​เป็น​ประ‌โยชน์​แก่​ชน‍ชาติ​นี้​อย่าง‍ใด​เลย พระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้​แหละ

33 “เมื่อ​มี​ประ‌ชา‍ชน​คน‍หนึ่ง​คน‍ใด​หรือ​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​คน‍ใด หรือ​ปุโร‌หิต​คน‍ใด​ถาม​เจ้า​ว่า ‘อะไร​เป็น​ครุ‍วาทของ​พระ‍เจ้า เจ้า​จง​ตอบ​เขา​ว่า ‘พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า เจ้า​ทั้ง‍หลาย​นั่น​แหละ​เป็น​ครุ‍วาท และ​เรา​จะ​โยน​เจ้า​ไป​เสีย

34 และ​ส่วน​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ ปุโร‌หิต​หรือ​ประ‌ชา‍ชน​ผู้​หนึ่ง​ผู้​ใด​ซึ่ง​พูด​ว่า ‘ครุ‍วาท​ของ​พระ‍เจ้า’ เรา​จะ​ลง‍โทษ​ผู้​นั้น​และ​ครัว‍เรือน​ของ​เขา

35 เจ้า​ทั้ง‍หลาย​จง​พูด​ดัง‍นี้ คือ​ทุก​คน​พูด​กับ​เพื่อน‍บ้าน ของ​ตน​หรือ​ทุก​คน​พูด​กับ​พี่‍น้อง​ของ​ตน​ว่า ‘พระ‍เจ้า​ตอบ​ว่า​กระ‌ไร’ หรือ ‘พระ‍เจ้า​ทรง​ลั่น​วา‌จา​ว่า​กระ‌ไร’

36 แต่​เจ้า​ทั้ง‍หลาย​อย่า​เอ่ย​ว่า ‘ครุ‍วาท​ของ​พระ‍เจ้า​อีก​เลย เพราะ​ว่า​ครุ‍วาท​นั้น​เป็น​คำ​ของ​แต่​ละ​คน และ​เจ้า​ได้​ผัน‍แปร​พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍เจ้า​ผู้​ทรง​พระ‍ชนม์​อยู่ พระ‍เจ้า​จอม‍โย‌ธา​พระ‍เจ้า​ของ​เรา

37 เจ้า​จง​กล่าว​กับ​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​ดัง‍นี้​ว่า ‘พระ‍เจ้า​ทรง​ตอบ​ท่าน​ว่า​กระ‌ไร’ หรือ ‘พระ‍เจ้า​ทรง​ลั่น​วา‌จา​ว่า​กระ‌ไร’

38 แต่​ถ้า​เจ้า​ทั้ง‍หลาย​พูด​ว่า ‘ครุ‍วาท​ของ​พระ‍เจ้า’ ‘พระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้​ว่า’ เพราะ​เจ้า​ทั้ง‍หลาย​ได้​กล่าว​คำ​เหล่า‍นี้​ว่า “ครุ‍วาท​ของ​พระ‍เจ้า” เมื่อ​เรา​ใช้​ไป​หา​เจ้า​ทั้ง‍หลาย​เรา​ว่า “เจ้า​อย่า​พูด​ว่า​‘ครุ‍วาท​ของ​พระ‍เจ้า

39 เพราะ​ฉะนั้น ดู‍เถิด เรา​จะ​ยก​เจ้า​ทั้ง‍หลาย​ขึ้น​เป็น​แน่ และ​โยน​เจ้า​ไป​เสีย​จาก​หน้า​เรา ทั้ง​เจ้า​และ​เมือง​ซึ่ง​เรา​ได้​ให้​แก่​เจ้า​และ​แก่​บรรพ‌บุรุษ​ของ​เจ้า

40 และ​เรา​จะ​นำ​ความ​ถูก ตำ‌หนิ​เป็น​นิตย์​และ​ความ​อาย​เนือง‍นิตย์​มา​เหนือ​เจ้า​ทั้ง‍หลาย ซึ่ง​จะ​ลืม​เสีย​ไม่‍ได้​เลย’ ”