19 “เราจะกำหนดหมายสำคัญในหมู่พวกเขาและเราจะส่งบางคนในหมู่ผู้รอดชีวิตไปยังชนชาติต่างๆ ไปยังทารชิช ไปหาชาวลิเบียและชาวลิเดีย (ผู้เป็นนักธนูเลื่องชื่อ) ไปยังทูบัลและกรีซ และไปยังเกาะแก่งอันไกลโพ้นซึ่งไม่เคยได้ยินชื่อเสียงหรือเห็นเกียรติสิริของเรา พวกเขาจะประกาศเกียรติสิริของเราท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
20 และพวกเขาจะนำพี่น้องทั้งหมดของเจ้าจากทุกชนชาติมายังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเราในเยรูซาเล็ม เพื่อเป็นเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า บางคนนั่งมาบนหลังม้า บางคนนั่งในรถม้าศึกและเกวียน และบางคนนั่งมาบนหลังล่อหลังอูฐ” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น “พวกเขาจะพาพี่น้องทั้งปวงของเจ้ามาเหมือนชาวอิสราเอลนำเครื่องธัญบูชาใส่ภาชนะที่สะอาดตามระเบียบพิธีมายังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
21 และเราจะเลือกบางคนที่กลับมาให้เป็นปุโรหิตและคนเลวี” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น
22 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ที่เราสร้างขึ้นจะยั่งยืนอยู่ต่อหน้าเราฉันใด นามของเจ้าและลูกหลานของเจ้าจะยั่งยืนอยู่ฉันนั้น
23 จากวันขึ้นหนึ่งค่ำถึงอีกวันขึ้นหนึ่งค่ำ และจากวันสะบาโตหนึ่งถึงอีกวันสะบาโตหนึ่ง มวลมนุษยชาติจะมากราบนมัสการต่อหน้าเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น
24 “และพวกเขาจะออกไปดูซากศพของบรรดาผู้ที่กบฏต่อเรา เพราะหนอนของคนเหล่านั้นจะไม่มีวันตาย ทั้งไฟของเขาจะไม่มีวันดับ และเขาจะเป็นที่น่าขยะแขยงแก่มวลมนุษยชาติ”