17 ส่วนที่เหลือเขาใช้ทำเทวรูป เป็นรูปเคารพของเขาแล้วเขาก็หมอบกราบนมัสการมันเขาอธิษฐานต่อมันว่า“ช่วยลูกด้วย เทพเจ้าของลูก”
18 พวกเขาไม่รู้ประสีประสา ไม่เข้าใจอะไรตาของเขาถูกปิดจึงมองไม่เห็นใจของเขาก็ถูกบังจึงไม่อาจเข้าใจ
19 ไม่มีใครหยุดเพื่อคิดไม่มีใครรู้หรือเข้าใจที่จะพิเคราะห์ว่า“เราใช้ไม้ครึ่งหนึ่งทำฟืนเราปิ้งขนมปังบนถ่านไม้เราย่างเนื้อกินควรหรือที่เราจะเอาไม้ส่วนที่เหลือมาทำสิ่งที่น่าเกลียดชัง?ควรหรือที่เราจะหมอบกราบลงตรงหน้าท่อนไม้?”
20 เขายังชีพด้วยขี้เถ้า จิตใจที่ลุ่มหลงนำเขาหลงเจิ่นไปเขาไม่อาจช่วยเหลือตัวเองหรือพูดว่า“สิ่งที่อยู่ในมือขวาของเรานี้เป็นสิ่งหลอกลวงไม่ใช่หรือ?”
21 “ยาโคบเอ๋ย จงจดจำสิ่งเหล่านี้อิสราเอลเอ๋ย เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเราเราได้สร้างเจ้ามา เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเราอิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่ลืมเจ้า
22 เราได้กวาดล้างการละเมิดของเจ้าออกไปเหมือนเมฆได้ลบล้างบาปของเจ้าเหมือนหมอกยามเช้าจงกลับมาหาเราเพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว”
23 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงร้องเพลงด้วยความยินดีเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทำการนี้โลกเอ๋ย จงโห่ร้องให้กึกก้องจงร้องเพลงเถิด ภูเขาทั้งหลายทั้งป่าไม้และพฤกษ์ไพรทั้งปวงเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงไถ่ยาโคบแล้วพระองค์ทรงสำแดงพระเกียรติสิริในอิสราเอล